หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ยินดีต้อนรับ,บุคคลทั่วไป. กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.
เมษายน 25, 2024, 03:35:33 pm
ข่าว: SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: แตงโม กับยา Transamin < Tranexamic acid > ยาห้ามเลือด ไฮโดรควินโนน update2020  (อ่าน 37745 ครั้ง)

Group: Global Moderator
Hero Member
*****

กระทู้: 602
Line ID : doctorteawclinic
บทความทางการเเพทย์เพิ่มเติม อ่านได้ที่
https://www.route035.com/webboard/index.php?board=6.0













https://www.route035.com/webboard/index.php?topic=248.0
ulthera vs thermage vs botox vs ร้อยไหม ใครดีสุดในโลก












แตงโม กับยา Transamin < Tranexamic acid > ยาห้ามเลือด ไฮโดรควินโนน <Hydroquinone> ไฮโดรควินโนนแบบใหม่




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 25, 2021, 12:43:37 pm โดย TEAW »


---------------------------
"อาชีพแพทย์นั้นมีเกียรติ แพทย์ที่ดีจะไม่ร่ำรวย แต่ก็ไม่อดตาย ถ้าใครอยากร่ำรวย ก็ควรเป็นอย่างอื่นไม่ใช่แพทย์…" จำได้ไหมว่าเป็นคำพูดของท่านผู้ใด

https://www.route035.com/webboard/index.php?board=6.0

https://bit.ly/3PQ19qE
https://www.avelaclinique.com/
   

Group: Global Moderator
Hero Member
*****

กระทู้: 602
Line ID : doctorteawclinic
คำตอบ



ผมตอบเป็นข้อๆตามที่ถามมาเลยนะครับ


1.Transamin ® เป็นชื่อการค้าของตัวยา Tranexamic acid  ขึ้นทะเบียนยาสำนักงานอาหารและยาแล้ว มีข้อบ่งใช้เพื่อห้ามเลือดครับ ไม่ใช่ทำให้เลิอดไหลครับ 



จาก ข้อมูลศูนย์ยาที่ได้รับการยอมรับคือ  DRUGDEX  In: Hutchison TA, Shahan DR & Anderson ML , Englewood, Colorado (Vol. 104 expires 12/2000) กล่าวถึงผลการใช้ว่าสามารถช่วยห้ามเลือดรักษาในคนไข้เป็นฮีโมฟีเลีย(เลือดออกผิดปกติ)ได้ ครับ








ต่อมามีรายงานว่าผู้ป่วยที่ใช้ยาตัวนี้มีลักษณะรอยดำและฝ้าจางลงอย่างมีนัยสำคัญ ในแล็ปการทดลองพบว่า ทรานซามิค แอซิดนี้ยับยั้งการสร้างเม็ดสีชนิด EUMELANIN ได้ดี จึงได้รับการยอมรับทางการแพทย์ผิวหนังในการนำมาใช้ในการรักษาฝ้าบางชนิดครับ




ข้อควรระวังในการแพทย์คือต้องอยู่ในการควบคุมการใช้ของแพทย์และเภสัชกรครับ เพราะทรานซามินต้องระวังในการใช้ในผู้ป่วยที่มีปัญหาทางลิ่มเลือด ทางจิตเวช โรคหัวใจและหลอดเลือดที่มีอาการเจ็บหน้าอก(ลิ่มเลือด) ผู้ที่ใช้ยาคุมกำเนิดหรือฮอร์โมนเอสโตรเจนอยู่ครับ




ดังนั้นทรานซามิค แอซิด สามารถใช้ได้ในการช่วยรักษาฝ้าหรือรอยดำ “บางชนิด”  โดยอยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์และเป็นที่ยอมรับในปัจจุบันครับ ทั้งในรูปยาทานและยาทาครับ แต่ต้องพึงระวังว่าใช้ได้เฉพาะในผ้าหรือรอยดำบางชนิดเท่านั้นนะครับ




อ้างอิงจาก
Maeda K., Naganuma M., Topical trans-4-aminomethylcyclohexanecarboxylic acid prevents ultraviolet radiation-induced pigmentation, Journal of Photochemistry and Photobiology, Dec 1998, 47(2-3), page : 136-141
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 25, 2021, 12:44:48 pm โดย TEAW »


---------------------------
"อาชีพแพทย์นั้นมีเกียรติ แพทย์ที่ดีจะไม่ร่ำรวย แต่ก็ไม่อดตาย ถ้าใครอยากร่ำรวย ก็ควรเป็นอย่างอื่นไม่ใช่แพทย์…" จำได้ไหมว่าเป็นคำพูดของท่านผู้ใด

https://www.route035.com/webboard/index.php?board=6.0

https://bit.ly/3PQ19qE
https://www.avelaclinique.com/
   

Group: Global Moderator
Hero Member
*****

กระทู้: 602
Line ID : doctorteawclinic
3.Hydroquinone ไฮโดรควินโนน ในต่างประเทศยังใช้กันอยู่นะครับรวมถึงประเทศไทย และได้รับการยอมรับว่านำมาใช้เป็น bleaching cream (ครีมฟอกขาว)



ลดรอยดำจากการอักเสบ ฝ้า ได้ครับ จาก milady s skincare ingredients ปี ล่าสุด ส่วนที่อเมริกาอนุญาตให้ใช้ในความเข้มข้นที่ไม่เกิน 2% ครับ แต่ก็เป็นข้อห้ามในประเทศทางยุโรปบางประเทศเท่านั้นครับ เพราพบว่าถ้าใช้ความเข้มข้นสูงมากๆหรือใช้ติดต่อกันนานไปจะทำให้เกิดภาวะด่างขาวได้









ในส่วนของประเทศไทยทางองค์การอาหารและยาอนุญาตให้ใช้ได้โดยการควบคุมของแพทย์เท่านั้นครับ รวมถึงทาง WHO ก็กำหนดให้ใช้ได้ครับที่ความเข้มข้นประมาณ 3-4%



ในส่วนประสบการณ์ด้านการใช้ไฮโดรควินโนนมาผมพบว่าถ้าใช้ที่ความเข้มข้นประมาณ2-4%ไม่พบอาการข้างเคียงใดๆเลยครับ นอกจากรู้สึกแสบแห้งในช่วงแรกที่ใช้เท่านั้น เพียงเราใช้ครีมกลุ่มให้ความชุ่มชื้นและกันแดดร่วมด้วยก็ไม่พบปัญหาใดๆครับ นอกจากขั้นตอนในการหยุดยาครับ




อ้างอิงจาก
European chemical bureau party
สำนักงานอาหารและยา ประเทศไทย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 25, 2021, 12:45:54 pm โดย TEAW »


---------------------------
"อาชีพแพทย์นั้นมีเกียรติ แพทย์ที่ดีจะไม่ร่ำรวย แต่ก็ไม่อดตาย ถ้าใครอยากร่ำรวย ก็ควรเป็นอย่างอื่นไม่ใช่แพทย์…" จำได้ไหมว่าเป็นคำพูดของท่านผู้ใด

https://www.route035.com/webboard/index.php?board=6.0

https://bit.ly/3PQ19qE
https://www.avelaclinique.com/
   

Group: Global Moderator
Hero Member
*****

กระทู้: 602
Line ID : doctorteawclinic
3. ยาหรือสารประกอบที่ยอมรับว่าลดรอยดำได้ในทางการแพทย์และเครื่องสำอางนั้น มีมากมายหลายตัวครับ








เช่น 



 AZELAIC ACID ซึ่งสามารถลดรอยดำและรักษาสิวได้ด้วย


 ARBUTIN  เป็นสารอนุพันธ์ที่นำมาใช้ลดรอยดำอย่างกว้างขวางและได้ผลดี


 RUNEX เป็นสารสกัดพืชในแคนนาดาเหนือ ช่วยลดการทำงานของเม็ดสีได้ดี


 KOIJIC เป็นสารอนุพันธ์ที่ลดรอยดำได้มีในเครื่องสำอางทั่วๆไปครับ


 AHA ที่ความเข้มข้นสูง พบว่านอกจากผลัดเซลล์ผิวแล้วยังลดการสร้างเม็ดสีได้




ส่วนไฮโดรควินโนนแบบใหม่น่าจะเป็น MBEH ทีเป็นอนุพันธ์ของไฮโดรควินโนน เป็น melanocidal ครับทำให้เกิดด่างขาวถาวรแบ ไมเคิล แจ็กสัน มีแอบขายกันมากมายทางเน็ท อันตรายมากครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 25, 2021, 12:48:16 pm โดย TEAW »


---------------------------
"อาชีพแพทย์นั้นมีเกียรติ แพทย์ที่ดีจะไม่ร่ำรวย แต่ก็ไม่อดตาย ถ้าใครอยากร่ำรวย ก็ควรเป็นอย่างอื่นไม่ใช่แพทย์…" จำได้ไหมว่าเป็นคำพูดของท่านผู้ใด

https://www.route035.com/webboard/index.php?board=6.0

https://bit.ly/3PQ19qE
https://www.avelaclinique.com/
   

Group: Global Moderator
Hero Member
*****

กระทู้: 602
Line ID : doctorteawclinic
4.IPL หรือ INTENSE PULSED LIGHT มีรายงานมากมายถึงประโยชน์ของการนำแสงความเข้มข้นสูงมาใช้รักษาฝ้า เช่น BITTER Jr.,PATRICK M.D. รายงานว่าสามารถรักษาฝ้าได้ถึง 70%



แต่ในรายงานอื่นๆก็พบว่ารักษาฝ้าได้ในระดับแตกต่างกันครับ สำหรับคนไข้ถ้า เครื่อง IPL ที่ได้มาตรฐานนั้น จะสามารถลดการช่วยลดรอยดำจากฝ้าได้แตกต่างกันไปตามความลึกและสีผิวครับ แต่ส่วนใหญ่ในปัจจุบัน IPL



มีการนำเครื่องที่ไม่ได้มาตรฐานและใช้การโฆษณาที่เกินเลยเกินไปทำให้คนที่ได้ทำไม่ได้ผลเท่าที่ควร




ส่วน Q-SWITCHED Nd:Yag มีการนำมาใช้รักษารอยดำได้ครับ แถมปัจจุบันยังมีเครื่องมือใหม่ๆอย่าง Dual Yellow



หรือแม้แต่ Fractional Erbium Glass  เเต่ปัญหาคือ เครื่อง fractional er gl นั้นผมเจอการใช้พลังงานที่มากเกินจนเกิดฝ้ามากกว่าเดิมหลายเคสครับ









ในส่วนของ Q-SWITCHED Nd:Yag แรกเริ่มคิวสวิทส์ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับรักษาฝ้านะครับ เหมาะกับกระมากกว่า ถ้าจะเลือกใช้เครื่อง คิวสวิทเเนะนำให้เลือกยี่ห้อเครื่องดีๆครับเพราะเครื่องมีมากมายหลายยี่ห้อ เเต่ยี่ห้อที่มีมาตรฐานสูงควรผ่าน อย อเมริกาครับ



เช่น Revlite , Helios 2 Focused scan <  ในส่วนของฝ้านั้นคิวสวิสท์นำมาเพื่อ “ช่วย” รักษาและลดรอยดำร่วมกับการรักษาอย่างอื่นครับ > ในส่วนการรักษาด้วยคิวสวิทส์ในพลังงานที่ไม่สูงมากนัก(ถ้าสูงไปจะเกิดการตกสะเก็ดลอกและจะกลับมาดำ)


ร่วมกับยาทาและทานนั้นพบว่าได้ผลดีเป็นที่น่าพอใจมากๆครับ ในส่วนของไอออนโตหรือโฟโนร่วมกับเอเอชเอก็ได้ผลระดับหนึ่งครับ<บางรายงานบอกว่าไม่ช่วยเลย แต่บางรายงานก็บอกว่าช่วยได้ระดับหนึ่ง>




***** ปัจจับันเทรนหันกลับไปใช้เครื่อง     focused scan ที่พัฒนาเอา q switched nd yag มาทำให้เป็นดอทเล็กๆ พบว่ารักษาได้ผลดีมากๆครับ อีกตัวที่นำมาใช้คล้าย dual yellow คือ dual nt ก็ได้ผลดีมากเช่นกันครับ





Q: เเล้วจะเลือกรักษาที่ไหนดี เลือกยังไง ?










A: จริงๆเเล้วการเลือกนั้นไม่จำเป็นต้องมีเครื่องเลเซอร์ที่ดีมากระดับอย อเมริกาก็ได้นะครับ (แต่ถ้าผ่าน อย อเมริกา ผมว่าจะยิ่งดี 55 )



 เพราะอาจารย์ผมบางท่านท่านรักษาฝ้าใช้วิธี เเค่ Soft Pelling ด้วย chemical peeling ตระกูล jessner , Modified Jessner , Blue peeling etc.


 
ก็สามารถทำได้ดีครับ เเต่เเพทย์ต้องชำนาญจริงๆเท่านั้นเพราะ การใช้สารเคมีเเบบนี้ไหม้เอาง่ายๆครับ




ดังนั้นหลักการสำคัญก็เหมือนเคย ควรเลือกเเพทย์ที่ดี ที่น่าเชื่อถือ มีวุฒิ ไม่เอาเเต่ชักเเม่น้ำขายของ เพราะผมว่าจะหาได้ยากนะครับที่คุณจะเดินเข้าคลินิกเขา เเล้วเขาบอกว่าทำไม่ได้ หรือเครื่องมือที่เขามีไม่เหมาะกับคุณ








 ดังนั้นถ้าเเพทย์ที่ดี ที่น่าเชื่อถือเขาสามารถบอกความจริงเเก่คุณได้ว่าเครื่องมือที่เขามีสามารถรักษาคุณได้จริงไหม ได้ระยะเวลาเท่าไหร่  ไม่ใช่เอาเเต่โม้หรือมั่วไปเรื่อยว่าทำได้


อยูได้เป็นปีอะไรประมาณนี้ เเล้วคุณก็ลองดูเครื่องมือเขาว่าดีจริงไหมเพราะพวกนี้มัน search net ได้อยู่เเล้วว่าผ่าน อย อเมริกาจริงไหม เพราะคลินิคที่ใหญ่ บางครั้งก็อาจจะไม่ได้ใช้เครื่องมาตรฐานเสมอไปครับ









สรุปก็คือดูที่เเพทย์ก่อนเลย ถ้าเเพทย์น่าเชื่อถือ เป็นหมอที่เป็นหมอ ไม่ใช่นักธุรกิจในคราบหมอ คุณจงไปหาเขา ต่อให้เขาอยู่ไกลเเค่ไหนคุณก็ควรไปครับ เพราะสิ่งที่คุณได้นอกจากผลการรักษาที่ดี ที่น่าพอใจ เเล้วยังคุ้มค่ากับเงินที่ต้องเสียไป เเถมไม่มีผลข้างเคียงให้เสียใจเเบบในข่าวครับผม




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 25, 2021, 12:50:31 pm โดย TEAW »


---------------------------
"อาชีพแพทย์นั้นมีเกียรติ แพทย์ที่ดีจะไม่ร่ำรวย แต่ก็ไม่อดตาย ถ้าใครอยากร่ำรวย ก็ควรเป็นอย่างอื่นไม่ใช่แพทย์…" จำได้ไหมว่าเป็นคำพูดของท่านผู้ใด

https://www.route035.com/webboard/index.php?board=6.0

https://bit.ly/3PQ19qE
https://www.avelaclinique.com/
   

Group: Global Moderator
Hero Member
*****

กระทู้: 602
Line ID : doctorteawclinic
5.แตงโม+มะละกอ+ฝรั่ง+มะขาม+ข้าวโพด นี่ผมแยกทีละตัวเลยนะครับ








แตงโมมีสารที่ชื่อว่า “ไลโคปีน” ซึ่งปกตินี้ ไลโคปีนสามารถเร่งการผลัดเซลล์ผิว ทำให้เซลล์ใหม่มีลักษณะแข็งแรงและทำงานเป็นปกติ


ไลโคปีนจริงๆแล้วไม่พบเฉพาะในแตงโมนะครับ ยังสามารถพบได้ใน ผลไม้ที่มีสีแดงเช่น มะละกอ มะเขือเทศ ฯลฯ









มะละกอ มะละกอมีสารตั้งต้นของวิตามินเอเป็นหลัก รวมทั้งมีวิตามินซีและวิตามินอีอีกด้วย


ดังนั้นมะลอกอจึงสามารถผลัดเซลลืผิวลดรอยดำและบำรุงผิวได้ครับ นอกจากนี้ยังพบว่ามะละกอมีเอนไซม์ที่ชื่อว่า


ปาเปนท์ ในยางของมะละกอมีหน้าที่ขัดผิวได้









ฝรั่ง นั้นทราบกันมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้วว่ามะละกอมีวิตามินซีมากที่สุดชนิดหนึ่งหนึ่งในห้าผลไม้แห่งวิตามินซีในจำนวนผลไม้ต่างๆเมื่อเทียบกับน้ำหนัก  นอกจากนี้พบว่าฝรั่งเป็นยาฆ่าเชื้อโรคอย่างดี


และล่าสุดมีการพบว่ามีสารเทนนินในใบฝรั่งที่ใช้ผสมในน้ำหอมหรือสารลดกลิ่นที่สามารถกำจัดกลิ่นบุหรี่ได้ครับ









มะขามนี่น่าจะเป็นมะขามเปียกนะครับ เพราะมะขามเปียกนี่รู้กันมาตั้งแต่ยุคอยุธยาแล้วครับว่ามะขามเอาไว้พอกหน้าให้ผิวใสขาวเนียน


เป็นตำราอายุวัฒนะที่จารึกไว้เลยครับ ในส่วนของการทำงาน มะขามเปียกมีวิตามินซีและเอสูงมาก ดังนั้จึงช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดรอยคล้ำได้ดีครับ








ข้าวโพด ในข้าวโพดมีสารหลัคือ โพแทสเซียม วิตามินซี ชิเซทิน (สารตั้งต้นวิตามินเอ) จึงเด่นที่เรื่องผลัดเซลล์ผิวลดรอยดำ




เพราะโพแทสเซียมนั้นควรอยู่ในรปรับประทานมากกว่าครับถ้าตามคุณสมบัติขิงแต่ละชนิดสามารถช่วยลดรอยดำจากฝ้าได้ครับ









อนึ่ง : ในส่วนของบล็อกที่ทางคุณส่งมานั้น ผมพบว่าน่ามากจาก HERB Powering ซึ่งก็เป็นที่นิยมในเมืองนอกนะครับ แต่ขั้นตอนมันมีการทำมากมายทั้งควรผสมน้ำผึ้ง การปั่นแช่เย็นและอีกมากมายซึ่งในส่วนตัวผมแนะนำว่าควรใช้ด้วยความระมัดระวัง


เพราะเสี่ยงต่อการแพ้และระคายเคืองได้ โดยเฉพาะยางของมะละกอครับ ในปัจจุบันถ้าเราจะใช้ผลไม้หรือสมุนไพรย่อมไม่ผิดอะไรครับ แต่วิธีการนำมาใช้นั้นค่อนข้างละเอียดอ่อนและยุ่งยาก รวมถึงอาจเกิดการแพ้ระคายเคืองตามมา


ผมจึงแนะนำว่าอย่างพวกวิตามินซีหรืออีนั้นสามารถหาได้จากครีมทั่วไปที่เขาสกัดมาแล้วเรียบร้อยน่าจะง่ายกว่าครับ






นายแพทย์สิทธิพงศ์ ฬาพานิช (หมอเตี๋ยว หมอกวยเตี๋ยว )






« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 25, 2021, 12:53:16 pm โดย TEAW »


---------------------------
"อาชีพแพทย์นั้นมีเกียรติ แพทย์ที่ดีจะไม่ร่ำรวย แต่ก็ไม่อดตาย ถ้าใครอยากร่ำรวย ก็ควรเป็นอย่างอื่นไม่ใช่แพทย์…" จำได้ไหมว่าเป็นคำพูดของท่านผู้ใด

https://www.route035.com/webboard/index.php?board=6.0

https://bit.ly/3PQ19qE
https://www.avelaclinique.com/
   


 

Theme © PopularFX | Based on PFX Ideas! | Scripts from iScript4u เมษายน 25, 2024, 03:35:33 pm