หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ยินดีต้อนรับ,บุคคลทั่วไป. กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.
เมษายน 17, 2024, 12:20:49 am
ข่าว: SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: 30 หนังเหงา ที่เหมาะกับคนกำลังเหงา เศร้าในรัก  (อ่าน 119262 ครั้ง)

Group: Global Moderator
Hero Member
*****

กระทู้: 1420
https://www.avelaclinique.com/
10. CITY OF GLASS 1998 มากกว่า คำว่ารัก

Leon Lai - Try To Remember

ตัวหนังชิง 5 ม้าทองคำ รวมถึง Mabel Cheung ที่เข้าชิงมาหลายครั้งในพักหลังเเเต่ก็พลาดไปหมดในสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม รู้สึกจะเคยได้อยู่อันเดียวจาก  Illegal Immigrant



หนังเล่าเรื่องการตายของคนสองคน( หลี่หมิง เเละ ซุฉี )ที่ต่างก็มีสามีภรรยากันเเล้ว พูดง่ายๆคือเป็นชู้กันว่างั้น การตายของมั้งคู่นำพาลูกของทั้งสองฝ่ายมาตามหาสาเหตุว่าทำไม เเม่เเละพ่อของตนจึงเป็นชู้กัน ยิ่งค้น ยิ่งพบกับความรักเเละความผูกพันของคนทั้งสองที่เคยเรียนเเละรักกันจนเกิดเหตุการนักศึกษาประท้วงเเล้วทั้งคู้ต้องเเยกจากกันไป จนมาพบกันตอนที่ทั้งคู่ต่างก็มีครอบครัวเเล้ว



หนังสุดเเสนโรเเมนติกประทับใจ ที่จะพาคุณผ่านช่วงเวลายุคสมัยของจีนช่วงปี 70 ที่ผ่านช่วงชีวิตรักคนทั้งสอง การดำเนินเรื่องละเมียดละมัย เเละที่สำคัญ คือ เพลงครับ ผมเคยรวบรวมเพลงหนังประทับใจไว้ใน
https://www.route035.com/webboard/index.php?topic=172.0

City of glass : Try To Remember/黎明

หลี่หมิงเป็นนักเเสดงที่เก่งมากๆคนหนึ่งนะครับ ฮ่องกงเนี่ยมีดาราเเสดงหนังเก่งมากๆหลายคน หลี่หมิงเองก็เก่งมากๆเช่นกัน
เเต่สิ่งที่ประทับผมสำหรับหลี่หมิงคือ การร้องเพลงนี้ครับ



ฟังเพลงนี้บวกกับตัวหนังเเล้วผมว่านี่คือ หนังระดับ เถียนมีมี่ the bridge of madisson country เป็นหนังระดับรางวัลม้าทองคำ ที่เข้าขั้นระดับมาสเตอร์พีซครับผม

City Of Glass 玻璃之城

เวอร์ชั่นนี้อาจมีคนร้องมากมายหลายคน เเละเวอร์ชั่นนี้ก็ไม่ใช่เวอร์ชั่นที่ดีที่สุด หรือเพราะที่สุด เเต่เวอร์ชั่นนี้ของหลี่หมิงประทับใจผมมมากที่สุดครับ


ระดับความเหงา  100++/ 100  อีกหนึ่งหนังรักเคล้าความเศร้าเหงา ที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ   การเป็นชู้กันบางครั้งมันก็ไม่ได้เลวร้าย นี่คือ  the bridge of madisson country ฉบับจีนที่ทลายทุกกฏของความรักครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 24, 2020, 11:47:13 am โดย TEAW »


---------------------------
   

Group: Global Moderator
Hero Member
*****

กระทู้: 1420
https://www.avelaclinique.com/
11. Sad Movie 2005




ชื่อหนังก็บอกเเล้วว่าเป็นหนังเศร้า นี่คือรวมมิตรหนังเศร้าเรื่องสั้นเล็กๆสี่เรื่องในเรื่องเดียว ที่หวังสร้างปรากฎการณ์ใหม่ เเต่ก็ผิดหวังในด้านรายได้



พูดง่ายๆคือไม่ทำเงินเท่าที่ควร เเต่ตัวหนังก้สามารถเค้นอารมณ์โดยเฉพาะตอนจบจากเทปวิดีโอกล้องวงจรปิดได้เป็นอย่างดี



ตัวหนังมีครบรสทั้งตลก คลกร้าย เศร้า การเฝ้ารอ ความหวัง ความผิดหวัง รักละมุน รักข้าเดียว ฯลฯ เท่าที่นิยามความรักในหนังเเต่ละเรื่องจะมีให้



ผมเองไม่ได้บอกว่านี่คือหนังรักที่ดีที่สุด หรือจะหนังเศร้าที่ดีที่สุด เเต่นี่คือหนังรักที่ดีเรื่องหนึ่งที่ดูเเล้วประทับใจไม่ผิดหวังครับ



Sad Movie (Korean Movie Trailer)

Ost sad movie(Thai ver) - หมุนโลก

ดู sad movie online

Sad Movie Part 1/11 (eng subs)

ระดับความเหงา 100+/100 นี่อาจไม่ใช่หนังรัก ที่ดีที่สุด เเต่เป็นหนัที่ครบองค์ประกอบของนิยามของความรักทุกนิยามเท่าที่หนังรักเเต่ละเรื่องจะมีครับ มันมีดีที่ความเศร้า เหงาทุกตอน

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 24, 2020, 11:49:20 am โดย TEAW »


---------------------------
   

Group: Global Moderator
Hero Member
*****

กระทู้: 1420
https://www.avelaclinique.com/
12. A.I. Artificial intelligence 2001




หนังที่สร้างจากวรรณกรรมเรื่อง  Super Toys Last all Summer Long ที่แสตนลี่ คูบริก หยิบมาเขียนบาทโดยใช้เวลามากกว่าสิบปีกับคนเขียนบทร่วมอีกหลายคน



แล้วถูกสานต่อ ดดยสตีเว่น สปิลเบิร์ก ที่เข้ามาแทนที่คูบริก ซึ่งต่อมาเสียชีวตด้วยโรคหัวใจ





ในตอนแรกที่สปีลเบิร์กเข้ามาสานงานต่อนั้น หนังเรื่องนี้ถูกล่าวถึงและกล่าวขวัญเป็นอย่างมาก



 ทั้งแฟนของคูบริกและสปีลเบิร์กว่านี่ต้องเป็นหนังที่ทำเงินที่สูงระดับ อี.ที.เลยทีเดียว







แม้ว่าจะไม่ทำเงินเท่าไหร่นัก แต่ก็เป็นหนึ่งในหนังของดวงใจคนในหลายประเทศ



เนื้อเรื่องกล่าวถึง บริษัท Cybertronics ที่ทำการสร้างหุ่นที่รู้จักคำว่ารัก



และเดวิด คือหุ่นเด็กตัวแรกที่ถูกสร้าง


(จริงๆก็มีต้นแบบหลายตัว ที่เห็นในตอนท้าย)



และครอบครัวสวินตั้นคือครอบครัวที่รับเดวิดมาเลี้ยงเพื่อทดแทนบุตรของตนเอง




แต่ความรักที่เดวิดได้ในตอนแรกกลับมลายหายไป ทำให้เดวิดออกเดินทางเพื่อตามหาตัวตนและสิ่งในใจ





ตอนแรกผมเองยังงงว่าจะจบยังไง แต่หนังก็จะเรียกว่าหักมุมรึเปล่า ในตอนจบที่มีมนุษย์ต่างดาว เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ก็ทำให้หนังจบลงอย่างลงตัวดีทีเดียว





แฮรี่ โจเอล ออสมอนต์ แสดงได้สมบทบาทฝีมือเด็กจริงๆ ที่แสดงออกถึงความเหงา ความเดียงสา และเป็นคนที่ต้องการความรักอย่างที่สุด




ผมจะบอกว่าผมชอบตุ๊กตาหมีในเรื่องจริงๆเลยนะนี่





A.I. Trailer (Extended Version)


ระดับความเหงา 90/100 อาจจะไม่เหงามากมาย แต่นี่คืออีกหนึ่งหนังในดวงใจที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัยครับ นี่คือ ET ดีๆนี่เองในยุค 2000 เเล้วคุณจะเสียดายที่ไม่ได้ดูหนังสุดประทับใจเรื่องนี้ครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 24, 2020, 12:10:55 pm โดย TEAW »


---------------------------
   

Group: Global Moderator
Hero Member
*****

กระทู้: 1420
https://www.avelaclinique.com/
13.Away from Her (2006)



จริงๆมันเป็นหนังเหงาระดับต้นๆที่ผมนึกถึงด้วยซ้ำ เพราะมันทั้ง เหงา เศร้า เจ็บใจ เจ็บปวด ทรมาน เป็นห่วง บีบคั้น หาหนทางไม่ได้ เเละ เสียสละ


คุณลองนึกภาพว่าคุณได้อยู่กับผู้หญิงคนหนึ่งมากว่า 40 จู่ๆเธอเริ่มทำกิจกรรมที่เพี้ยนไปไม่ว่าจะวางของผิดที่ ผิดเวลา ตรวจไปตรวจมาพบเป็นโรคสมองเสื่อม หรือ โรคอัลไซเมอร์  Alzheimer's disease หรือ AD



สิ่งที่ตามมาคือหนังวางแผนอย่างแยบยลในการซ้อนหนังในหนัง ด้วยการนำเสอนการพาแฟนหญิงชราไปยังบ้านพักสำหรับคนเป็นโรคนี้โดยเฉพาะ แต่ห้ามให้เธอเห็นหน้า 30 มีได้แต่การโทรไปภามอาการ บรรยากาศเศร้าๆกว่า 30 วันที่เป็นห่วง นำเสนอผ่านภาพที่แยบยล เหงาแบบสุดขั้ว


ต่อมาเขาพบว่าเมื่อไปพบรรยาที่ฝากไว้ เธอกลับคิดว่าเขาไม่ใช่สามี เเต่กลับคิดว่าอีกคนที่อยู่ในบ้านพักนั้นคือสามี เรื่องราวมีการหักปมและคลายปมผ่านการเล่าเรื่องตัดสลับอดีตอย่างแยบยลเเละฉลาดในการนำเสนอ .... สุดท้ายเเล้วสามีคงต้องทำตามชื่อหนังคือ ....พยายามค่อยๆหายไปจากเธอ...away from her...

AWAY FROM HER - Trailer

ระดับความเหงา 100++++++++++/100 .... สุดยอดเเห่งหนังเหงา รันทด เศร้า ทรมาน แต่มีชั้นเชิง......



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 24, 2020, 12:18:15 pm โดย TEAW »


---------------------------
   

Group: Global Moderator
Hero Member
*****

กระทู้: 1420
https://www.avelaclinique.com/
14.Fucking Amal (1998) - Show Me Love




ในทุกสถานการศึกษา ในทุกสังคม เรามักพบกับพวก เดอะ ลุสเซอร์ หรือ พวกขี้เเพ้ ที่มักจะไม่เป้นดาวเด่น ไม่มีใครรัก ไม่มีใครสนใจ เหมือนเป้นจุดด้อยในโรงเรียนในสังคม ไม่มีใครเเคร์ เเม้แต่วันเกิดยังไม่มีใครไปเลยสิเอา





แต่สิ่งที่สำคัยนอกจากความเปลี่ยวเหงาของนางเอก เลสเบี้ยนจัดในหนังที่เฝ้าหลงรักสาวเจ้าอีกคนในโรงเรียน การจูบกันของสองสาวที่เกิดจากการพนัน ย่อมทำให้อีกฝ่ายผิดหวังเมื่อรู้ว่านอกจากตัวเองจะเป็นคนไม่ได้เรื่องเเล้วยังถูกหลอกอีก ส่วนอีกคนการจูบกลับนำมาซึ่งความเข้าใจในเพศตัวเองที่มันหลบอยู่



Fucking Åmål trailer (Show me love) with ENGLISH SUBTITLES



ระดับความเหงา 80/100 .... มันเล่นกับประเด็นคนที่เเปลกแยก โดดเดี่นว เหงา สับสน แต่จบได้เรียบง่าย คลายความเหงาซะสิ้นไปเลย

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 24, 2020, 12:19:46 pm โดย TEAW »


---------------------------
   

Group: Global Moderator
Hero Member
*****

กระทู้: 1420
https://www.avelaclinique.com/
15.The Reader (2008)




หนังนำเสนอความเหงาแบบอายๆของสาวอดีตพรรคนาซีคนหนึ่ง ที่ความอายในการบอกคนอื่นถึง ข้อด้อยอย่างหนึ่งของเธอซึ่งจริงๆมันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรเลย กลับนำมาซึ่งความรัก ความฝังใจของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง และสู่บทสุดท้ายของชีวิตเธอ



พอผมได้เห็นชื่องานในอนาคตของ Anthony Minghella ( The English Patient ) เลยแวปไปหาหนังสือมาอ่าน พออ่านจบเนี่ยผมจัดตัวหนังสือไว้ชั้นบนที่ผมมักรวมหนังสือเล่มโปรดอย่าง พุทธานุภาพ หรือ ประชาธิปไทย ไว้รวมกัน


นั่นก็หมายความง่ายๆว่ามันเป็นหนังสือในดวงใจ พอหนังได้ลงโรง มันก็ไม่ได้ทำให้ผมผิดหวังแม้แต่น้อย เพราะ เคท วินเสล็ต ถ่ายทอดบท ฮันนาห์ ชมิท อีตนาซีผู้อาภัพในเรื่องการอ่าน ที่เธอพยายามปิดบังเสมอไม่ให้ใครรู้ เธอยอมนอนกับเด็กวัย 15 เพื่อให้เขาอ่านหนังสือให้ฟัง เธอยอมลาออกจากงานเมื่อได้เลื่อนขั้นเพราะจะทำให้คนรู้ว่าอ่านหนังสือไม่ออก แต่เธอยอมลงชื่อในใบสารภาพอาชญากรเพราะเธออ่านมันไม่ออก



อีกมุมของเด็กหนุ่มที่ชีวิตได้เข้ามาสัมผัสฮันนาห์ คือ ไมเคิลเบิร์ก เด็กหนุ่มที่เพิ่งหายจากโรค เเละมีโอกาสได้พบ ได้รัก เเละพลัดพรากจากเธอ หลังจากที่เธอหายไปจากเขากว่าสิบปี เขามาพบเธอในศาลที่เขาไปดูงาน ซึ่งเขาได้พบเธอถูกตั้งข้อหาเป็นนาซีทำให้คนตาย บทลงเอยของสองชีวิตที่พบกันเพราะหนังสือ (การอ่านหนังสือ) เริ่มด้วยความเหงา จบด้วยความเหงาเเละเศร้า

The Reader Movie Official Trailer (2008)

ระดับความเหงา 100++/100  เเค่หนังสืออ่านก็เหงาเเล้ว มาเจอหนังที่มีงานสกอร์โคตรเหงาเข้ามาอีก....



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 24, 2020, 12:23:33 pm โดย TEAW »


---------------------------
   

Group: Global Moderator
Hero Member
*****

กระทู้: 1420
https://www.avelaclinique.com/
16.What Time Is It There  你那邊幾點  2001



หนังโคตรเหงาที่ไม่บีบแบบหนังหว่องกาไว แต่ก็ชอบการเเช่กล้องและมีมุมกล้องที่คล้ายคลึงกัน  หนังเหงาที่เล่าเรื่องราวแปลกจน ถ้าผมเล่าเนี่ยคุณต้องอุทานว่าบ้าแน่



หนังเล่าถึงหนุ่มคนหนึ่งที่่่่่ขายนาฬิกาประมาณพ่อค้าแผงลอยตามฟุตบาทสะพานลอย แต่ดันมาพบกับสาวน้อยที่กำลังเดินทางไปฝรั่งเศส เธออยากซื้อนาฬิกาที่เป็นของคนขาย ไม่ใช่ที่วางขาย ผลน่ะหรือ เขาดันประทับใจกัน (หลงรักกัน) อย่างประหลาด และหาเหตุผลที่ยากอธิบาย




จะบอกว่าพระเอกนี่หน้าตาเเบบว่าเฮ้อ แถมบ้าออกหน่อยๆ ปีนไปเอานาฬิกาเข้ามาดูหนัง ผมว่าฉากในโรงนี่ฮาดี.... เขาพยายามเปลี่ยนนาฬิกาให้เป็นเวลาของฝรั่งเศส หรือจะฝ่ายหญิงที่ประหลาดนอนสวนสาธารณะซะงั้น ผมว่าพฤติกรรมเหล่านี้ล่ะเสดงออกถึงความเหงา การครุ่นคิดในสิ่งๆใด จนต้องแสดงมันออกมา

What Time Is It Over There? (Ni Na Bian Ji Dian) (2001) (Tsai Ming-liang)


ระดับความเหงา 90/100 .... หนังแนวๆ ที่มากับบรรยากาศเหงาๆ ง่ายๆ ที่พบเจอในสังคมทุกวันครับ 


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 24, 2020, 12:27:29 pm โดย TEAW »


---------------------------
   

Group: Global Moderator
Hero Member
*****

กระทู้: 1420
https://www.avelaclinique.com/
17. Grave Of The Fireflies สุสานหิ่งห้อย 火垂るの墓  1988




สุสานหิ่งห้อย การ์ตูนเรื่องเเรกที่ดูเเล้วร้องไห้เท่าที่ผมจำความได้นะ



หนังการ์ตูนเเอนตี้สงครามที่ทำลายทุกความหวัง ทำลายทุกศรัทธา ทำลายทุกการรอคอย ทำลายโอกาสการมีชิวิตอยู่ เพราะสงคราม เเถมจบด้วยน้ำตาเเบบว่าใครดูไม่ร้องไห้นี่ต้องไปเช็คจิตใจกันหน่อยล่ะ


เนื้อเรื่องเล่าเรื่องพี่น้องคู่หนึ่งที่พ่อต้องไปรบในสงครามโลก เเม่ต้องเสียชีวิตเพราะระเบิด ทั้งคู่ต้องคอยหาอาหารเอง โดยเฉพาะโชตะที่ต้องคอยดูเเลน้อง หาอาหาร หรือเเม้เเต่ต้องเอาหิ่งห้อยมาเป็นเเสงไฟให้ 



หนังเรื่องนี้ผมพูดได้ว่ารันทดสุดๆ เเบบว่า โอชิน เรียกเเม่เลยก็ได้ครับ ยิ่งตอนจบที่ทำร้ายจิตใจอย่างรุนเเรงเเบบว่าความหวังทุกอย่างสูสลายนี่สุดๆเลย


Grave Of The Fireflies : Original Trailer /english


ระดับความเหงา100/100 ความรักของโชตะที่มีต่อน้อง การฝ่าห่าระเบิดเพื่อเข้าไปเอาอาหาร การพยามยามอยู่ได้ด้วยความหวัง .....ผมล่ะเกลียดสงครามจริงๆครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 24, 2020, 12:29:51 pm โดย TEAW »


---------------------------
   

Group: Global Moderator
Hero Member
*****

กระทู้: 1420
https://www.avelaclinique.com/
18. The Kite runner 2007




The Kite Runner ( کاغذ‌پران‌باز - Kāğazparān Bāz)  2007

directed by Marc Forster
based on the novel of Khaled Hosseini
Starring   Khalid Abdalla  Zekeria Ebrahimi  Homayoun Ershadi



จากนิยาย เด็กเก็บว่าว ของ Khaled Hosseini ในปี 2003 ซึ่งเป็นหมอลูกครึ่งอัฟกัน-อเมริกัน ทีี่มีถิ่นกำเนิดในอัฟกานิสสถาน มาสู่เเผ่นฟิล์มโดย มาร์ก ฟอสเตอร์ นี่หนังสือ A Thousand Splendid Suns เล่มที่สองของ Khaled Hosseini ใกล้สร้างเต็มที น่าจะออกในปี 2015 นะครับถ้าผมจำไม่ผิด


อัฟกานิสสถาน ประเทศที่มีสงคราม ทะเลทราย การฆ่ากันไม่เว้นแต่ละวัน ประเทศที่เป็นศัตรูกับอเมริกา ใครไม่เคยเห็นอัฟกานิสสถานเป็นประเทศที่สวยงาม จงดูเรื่องนี้ครับ  ความคิดคุณจะเปลี่ยนไปครับ


หนังถ่ายทอดประเทศอัฟกานิสสถานในช่วงก่อนยุคสงคราม คนที่นั่นนิยมเล่นชักว่าว(ว่าวจริงๆครับ ชักจริงๆ อย่าคิดเป็นอื่นครับ) มีการเเข่งว่าวการปั่นว่าวอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน  หนังจับชีวิตครอบครัวของอาเมียลูกคนรวยที่มีเพื่อนเป็นคนใช้คือฮัสซัน ชอบวิ่งเล่นเก็บว่าวที่คนทำตก



ฮัสซันมีความสามารถพิเศษที่สามารถบอกได้ว่าว่าวจะตกไปทางทิศใด แต่ต่อมาวันหนึ่งเกิดเหตุการณ์........(ขอไม่เล่านะครับ) ทำให้อาเมียรังเกียจฮัสซัน เเละใส่ร้ายว่าฮัสซันโขมยของ ทำให้ฮัสซันถูกไล่ออกจากบ้าน และไม่ได้ข่าวคราวของฮัสซันอีกเลย  จนเวลาล่วงเลยมา อาเมียโตขึ้นทราบข่าวว่าลูกของฮัสซันตกในฐานะลำบากแต่ปัจจุบันที่อัฟกานิสสานเปลี่ยนเป็นดินแดนสงครามและเขาได้ย้ายมาอเมริกา เขาจึงต้องการไถ่โทษอดีตของเขาโดยการเข้าไปช่วยลูกของฮัสซัน เพื่อนผู้ซื่อสัตย์ของเขา

อีกหนึ่งหนังดีที่ถ่ายทอดอีกมุมของอัฟกานิสสถาน ที่บอกว่าสวยงาม งดงาม และน่าเที่ยวจริงๆครับ จริงๆหนังเรื่องนี้ควรจะเขย่าเวทีออสการ์มากกว่าที่ได้มาด้วยซ้ำไปครับ ถ้าได้รางวัลหนังยอดเยี่ยมนี่ผมก็คงไม่แปลกใจอะไรเลยครับ

แนะนำว่าควรไปหามาดูครับ กับหนังที่ซึ้งๆ ในความเป็นเพื่อน และแอนตี้สงครามในตัวครับ




เรื่องราวเกี่ยวกับ มิตรภาพ ความเป็นเพื่อน การหักหลัง การโกหก เเละการไถ่บาป ของคนสองคนที่เป็นชาวอัฟกานิสถานในยุคประเทศยังสวยงามไม่เหมือนปัจจุบัน



เป็นหนังที่เกินจินตนาการครับ ไม่น่าเชื่อว่าอัฟกานิสถานจะสวยได้ขนาดนี้ เเม้เนื้อเรื่องบางช่วงจะรุนเเรง หรืออาจดูเหลือเชื่อ เเต่ก็เป้นหนังที่ให้ความบันเทิง ประทับใจเป็นอย่างดีครับ

! Private video

ระดับความเหงา  99 / 100  กินใจครับผม บางครั้งการที่เราได้ไถ่บาปในสิ่งที่ตัวเองผิดพลาดไป มันมีค่ามากกว่าเราได้อะไรใหม่ๆมาเสียอีกครับ  ดูมาสิบกว่ารอบยังไม่เบื่อเลยครับผม มันทำให้ผมไม่เเปลกใจเลยว่า Finding Neverland จาก ผกก มาร์ก ฟอร์สเตอร์ นี่มันสุดๆจริงๆ
 

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 24, 2020, 12:34:49 pm โดย TEAW »


---------------------------
   

Group: Global Moderator
Hero Member
*****

กระทู้: 1420
https://www.avelaclinique.com/
19.IKIRU : AKIRA KUROSAWA  1952




หนังในปี 1952 ของผู้กำกับระดับปรมาจารย์ ชาวญี่ปุ่น



ในใจผมชอบ dreams ของ อากิระ คูโรซาว่า มากกว่าเรื่องนี้นะครับ เพราะมันมีทุกรสชาติของความสนุกแถมด้วยภาพตระการตา เเต่ถ้าวัดถึงดูแล้วประทับใจก็ต้องเรื่องนี้เท่านั้นครับ  IKIRU AKIRA KUROSAWA






หนังเก่าเก็บของผม ดูทีไรก็นึกถึงคนที่ตายเมื่อายุยังน้อยทุกที เพราะชีวิตคนเรามันสั้นนะครับ 



Life is So Short ตามเนื้อเรื่องของหนังที่ว่าถึง คนแก่คนหนึ่งที่อยากใช้ชีวิตในช่วงท้ายของตนเองที่รู้ว่าตนเองจะอยู่ได้ไม่นานจากการตรวจพบมะเร็ง




[url=https://www.youtube.com/watch?v= EImdE3OzesQ#




 มีหลายทางที่คนๆหนึ่งจะตัดสินใจทำอะไร แต่สำหรับตัวละครในเรื่องในช่วงกลางถึงหลังกลับเลือกที่จะเรียนรู้ "โลก" ที่เขาอยู่มานาน ด้วยมุมมองที่แตกฉานและแตกต่าง และเลือกที่จะทำอะไรให้สังคมในตอนที่ตนเองมีชีวิตอยู่



ชีวิตคนเรามันสั้นนะครับ อายุเฉลี่ยคนไทยถ้าให้ผมจำตัวเลขเน้นๆนี่จำไม่ได้เเต่น่าอยู่ที่ 50 ปลายๆต่อ 60 ต้นๆ สำหรับบางอาชีพอย่างแพทย์ไทยอายุ 54.62 ปีเท่านั้น  ส่วนวิศวกรนี่มากกว่า 61.6 ปี




ปีนี้ก็ผ่านร้อนหนาวมากกว่า 40 ปี  ผมเรียนรู้การมีชีวิต สังคม การใช้ชีวิตด้านต่างๆ ถูกบ้างผิดบ้าง



ทำบุญก็เยอะทำบาปก็มี แต่ส่วนใหญ่สิ่งที่ทำให้ผมระลึการมีชีวิตให้มันดีมีความสุขนั้นล้วนมาจากหนังที่ผมดู โดยเฉพาะอย่าง shawshank redemption , The classic  , Dances with wolves  , Tokyo tower , Forrest gump ฯลฯ รวมทั้ง IKIRU ครับ


หลายๆฉากหรือหลายๆภาพของหนังจัดว่าเป็น "สิ่งคลาสสิค" ทางภาพยนตร์ไปแล้ว โดยเฉพาะฉากจบที่พูดถึงมากมาย (ฉากที่นั่งบนชิงช้าเด็กท่ามกลางความหนาวของหิมะ)



ชีวิตจะสวยงามถ้าคุณรู้จักคุณค่า อย่างการูตูนเรื่อง  DR.K ฉบับเดิมมีตอนหนึ่งที่ เคบอกคนไข้ว่า "อย่าให้ตัวเองตายโดยที่ผู้คนจำไม่ได้ว่าคุณคือใคร เพราะถ้าใครก็จำคุณไม่ได้นั่นคือคุณไร้ค่า แต่กับวัวที่ตายไปมันยังทิ้งหนังของมันมาทำเป็นเข็มขัดที่บ่งบอกถึง "การเคยมีชีวิตของมัน" "



ดูกี่ทีกี่ทีก็รู้สึกดีจังครับ  คุณค่าของการมีชีวิตอยู่  "มันไม่สำคัญว่าคุณเคยเลวมาขนาดไหน แต่มันสำคัญว่า วันนี้คุณได้เรียนรู้สิ่งดีเลวและ คุณรู้ว่าต้องทำอะไรเพื่อชดเชยเวลาเลวๆของคุณ"  by J.W. POWEll 



นอกเรื่องอีกแล้ว อืม เป็นว่าถ้าคุณอยากได้หนังดีๆสักเรื่องที่ทำให้คุณเข้าสู่หรือบอกเตือนตัวเอง ถึง "คุณค่าการมีชีวิตอยู่ ณ ปัจจุบัน" "หรือการทำดี ในวันนี้เถิดก่อนจะสาย"  "หรือมีชีวิตในทุกวินาที ที่ยังมี เพราะเวลามีค่ามากมาย"
IKIRU คือคำตอบเรื่องหนึ่งทีเดียวครับ เพราะ ikiru แปลว่า มีชีวิต ตรงตัวของมันอยู่แล้ว






Ikiru (To Live) (1952)

ระดับความเหงา 100+/100 ......เเล้วคุณจะรู้คุณค่าของการมีชีวิตครับ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 24, 2020, 12:46:49 pm โดย TEAW »


---------------------------
   


 

Theme © PopularFX | Based on PFX Ideas! | Scripts from iScript4u เมษายน 17, 2024, 12:20:49 am