หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ยินดีต้อนรับ,บุคคลทั่วไป. กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.
เมษายน 19, 2024, 09:21:18 pm
ข่าว: SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: Top 30 sci-fi + Fantasy + special effect movies หนังเทคนิค หนังไซไฟ หนังแฟนตาซี  (อ่าน 117979 ครั้ง)

Group: Global Moderator
Hero Member
*****

กระทู้: 1420
https://www.avelaclinique.com/
7.Superman 1978


You will believe a man can fly



เวลาผมนึกถึงซุปเปอร์แมน ผมนึกถึงเด็กตัวเล็กๆที่ยกรถบรรทุกได้ นึกถึงเด็กหนุ่มที่ตีลูกเบสบอลลอยออกไปไกลแสนไกลจากทุ่งหญ้า นึกถึงหนุ่มในชุดสีฟ้าที่เอากางเกงในมาไว้ข้างนอก



นึกถึงคนที่เเข็งเเรงกล้ามเป็นมัดๆที่มีผ้าคลุมหลังไว้ทำไมมิทราบ นึกถึงตู้โทรศัพท์  นึกถึงคริสโตเฟอร์ รีฟ นึกถึงโลโก้ตัวเอส นึกถึงธีมสกอร์ดนตรีในหนังที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว นึกถึงท่าจับปกเสื้อบริเวณอกแหวกออกเพื่อเห็นชุดซุปเปร์แมนที่สวมทับ ฯลฯ ครับ



ใครเล่าจะเดิมจะเชื่อว่าลายเส้นการ์ตูนของเด็กหนุ่มชาวแคนนาดาคือ Jerry siegel กับ Joe shuster ที่ร่างวาดมาตั้งแต่เด็กแล้วมาเป็นรูปเป็นร่างเมื่อปี 1932



จะกลายเป็นหนังอังกฤษ-อเมริกา ฝีมือ ผกก. ริชาร์ด ดอนเนอร์ใน 42 ปีต่อมา แถมทุนสร้างนี่สูงมากๆ กว่า 55 ล้านเหรียญสหรัฐเลยในสมัยนั้น (แต่กวาดมาทั่วโลกกว่า 300 ล้านเหรียญ)



ดอนเนอร์นำเอกลักษณ์ทุกๆอย่างของซุปเปอร์แมนข้างต้นมาสร้างได้เป็นตัวของตัวเอง โดยอาศัย มาร์ลอน แบรโดร์ ที่ตอนนั้นดังกว่ารีฟเยอะ มาเป็นชื่อนำในการแสดง(ชื่อมาก่อนรีฟตัวเอกที่มาแสดงเป็น KAl-el หรือ clark kent ซะอีก)



นอกจากธีมเพลงที่เป็นเอกลักษณ์อมตะเเล้ว เอ้ฟเฟ็กซ์ในเรื่องถูกกล่าวขวัญว่าคุ้มค่า คุ้มราคาสำหรับเม็ดเงินทุกบาททุกสตางค์ที่ลงทุนไป โดยเฉพาะฉากหลายๆอันที่เรียกกันว่าเด็ดขาดสมจริง(ในสมัยนั้น) ไม่ว่าจะสะพานโกลเด้นเกท ฉากดาวคริปด้อน คริปต้อนโดม เด็กยกรถ



และฉากบินของซุปเปอร์แมน ซึ่งทำเอาเด็กๆสมัยนั้นรวมทั้งผมเองอยากเป้นซุปเปอรืแมนอยากบินได้ อยากเเข็งเเรงและรวดเร็ว  และอยากเอากางเกงในมาใส่ไว้นอกกางเกง มันน่าเอาหนังเรื่องนี้ไปฉายให้หนังบางเรื่องที่ทำเอ้ฟเฟ็กซ์แย่ๆไม่สมยุคในปัจจุบันดูว่า เอฟเฟ็กซ์ของยุคที่เรียกว่า BEFORE DIGITAL อย่างซุปเปอร์แมนนี่สุดยอดเเค่ไหน



ส่วนใหญ่ฉากต่างๆใช้สร้างเป็นย่อขนาดออกมาแล้วซูมภาพเข้าไปอย่าง สะพาน The Golden Gate Bridge ก็ทำมาเป็น scale model ที่ 20 ฟุต


ฉากสลิงก็ใช้ tower cranes ร่วมกับสลิง



และเเน่นอนขาประจำ Front projection effect

แล้วคุณจะรู้ว่า  คำจั่วหัวที่ว่า You will believe a man can fly เป็นยังไงครับ


Superman 1978
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 26, 2020, 02:23:24 pm โดย TEAW »


---------------------------
   

Group: Global Moderator
Hero Member
*****

กระทู้: 1420
https://www.avelaclinique.com/
8. Inception 2010



ไม่น่าเชื่อว่าบทต่อเนื่องที่พัฒนามาจากหนัง insomnia ในปี 2002 ของคริสโตเฟอร์ โนแลน  ( Christopher Nolan  )เอง จะมีการเติมแต่ง ปรับเปลี่ยนใส่จินตนาการ



เข้าไปในบทที่มีไม่ถึง 80 หน้าเรื่องนี้ได้ จนกลายเป็นหนึ่งในหนัง Sci fi ที่ดีทีสุดเท่าที่โลกภาพยนตร์เคยมีมาเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว



ตัวหนังที่มีบทภาพยนตร์ฉีกกฏหนังไซไฟ สร้างจินตนาการผ่านเอฟเฟคซ์ขั้นเทพในปีนั้น ส่งผลให้กวาดเงินทั่วโลกไป 850 ล้านเหรียญ ในการสร้างโลกในจิตใจ ในความฝันที่มีหลายๆชั้น จินตนาการของทีมงานที่ทำการจารกรรมความคิด


 ปลูกฝังความคิด แค่คิดได้ก็สุดยอดแล้ว แถมด้วยจินตนาการโลกในความคิดที่สุดยอดเข้าไปอีกขั้น





มันคือส่วนผสมที่ลงตัวของหนัง ไซไฟ ผสมแอ๊กชั่น เเถมด้วยจารกรรม บวก ทริลเลอร์ แบบกลมกล่อม ต้องดูหลายเที่ยวเพื่อเก็บรายละเอียดกันเลยทีเดียว




และไม่ใช่งานภาพที่สุดยอด ยังมีงานเสียงที่ถ้าคุณตั้งใจฟัง มีการสร้าง "เสียง" ใหม่ๆขึ้นมาด้วยคอมพิวเตอร์ เเละจะบอกว่ามันสุดยอดมากเลยครับ



Hans Zimmer - Greatest Hits

รวมถึงธีมสกอร์ในหนังแน่นอนหนังเเอ๊กชั่นอันดับหนึ่งคือ  Hans Zimmer  ที่แกถนัดเหลือหลายกับสกอร์หนังแอ๊กชั่น อย่าง The Dark Knight 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 26, 2020, 02:27:17 pm โดย TEAW »


---------------------------
   

Group: Global Moderator
Hero Member
*****

กระทู้: 1420
https://www.avelaclinique.com/



ย้อนกลับมาที่เอฟเฟค ที่เด่นมากคือ "limbo" city  , Paradoxon  และเมืองคู่ขนาน ที่ดูแล้วระทึกใจเหลือเกินครับ หรือจะในฉากเมือง อพาตเมนร์ที่สามารถเดินบนกำแพง ลอยได้




ล้วนแต่อิงเทคนิคเบื้อต้นมาจาก 2001 space odyssey ที่สร้างห้องหมุนเหมือน รสร้างเครื่อง centrifuge ในหนัง 2001 รวมถึงการทำฉากย่อส่วนใส่เฟรมเข้าไป

Inception: Behind The Scenes



โดยอาศัยทีมงานของ Christopher Charles Corbould กับ Paul Franklin คู่บุญ ผู้กำกับโนแลนมาตั้งแต่ ดาร์คไนท์ แล้วครับ รวมถึงเป็นหนึ่งในทีมของเเฮรี่พอร์ตเตอร์ด้วยครับ



Inception - Official Trailer [HD]


Inception - Making of the Paradoxon Scenes [HD]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 26, 2020, 02:30:07 pm โดย TEAW »


---------------------------
   

Group: Global Moderator
Hero Member
*****

กระทู้: 1420
https://www.avelaclinique.com/
8.Back to the Future trilogy 1985

Directed by Robert Zemeckis
Executive producers: Steven Spielberg Kathleen Kennedy Frank Marshall
Written by Bob Gale Robert Zemeckis
Starring   Michael J. Fox Christopher Lloyd Crispin Glover  Lea Thompson  Thomas F. Wilson
Music by   Alan Silvestri



คุณรู้จัก เดโรลีนไหมครับ ผมมีอยู สามอันสามเวอร์ชั่น เดโรลีนก็เจ้ารถ ไทม์แมชชีน งัยครับ
https://www.route035.com/webboard/index.php?topic=174.0


ผมเองรู้จักเรื่องนี้มาจากหนังวีดีโอสมัยก่อนยังเป็นม้วนอยู่เลย แล้วก็มาเจอกับ เจ้าบัณฑิต เพื่อนรุ่นม.2 มันคลั่งเรื่องนี้มากๆ คลั่งจนเขียนการ์ตูนเรื่องนี้ออกมาเลยครับ ที่สำคัญมันเสือกแพร่เชื้อคลั่งเจ้า "เจาะเวลาหาอดีต" มาให้ผมด้วยสิครับ



เนื้อเรื่องจับเอามาร์ตี้ หนุ่มผู้ได้ยินคำด่าว่า "ไอ้ไก่อ่อน" ไม่ได้ต้องของขึ้น ที่สนิทกับด็อก ศาสตราจารย์สติเฟื่องที่ประดิษฐ์ รถไทม์แมชชีน จากอุบัติเหตุบางอย่างจับพลัดจับผลูให้มาร์ตี้ต้องนั่งเจ้ารถย้อนไปในอดีตสมัยพ่อเเม่เขา แล้วแบตเตอรี่ดันมาหมด เขาจึงต้องไปหา"ด็อก"ในยุคนั้น เพื่อหาทางหาแบตเตอรี่มาสร้างพลังงานให้รถให้เขาย้อนเวลากลับมาปัจจุบัน 



หนังสนุกมากกกกก สนุกจนใครที่ได้ดูต้องมีความฝันแบบเด้กๆว่า "เฮ้ย อยากมีไทม์แมชชีน" อยากรู้จักด็อก อยากเล่นเสก็ตแบบในหนัง ผมว่าหนังสนุกทุกๆภาค โดยเฉพาะภาคสามที่ลูกของด็อกคือบุคคลสำคัญนั่นแหละ และเจ้าโมเดล รถไฟที่เป็นไทม์แมชชีน ปัจจุบันกลายเป็นของมีค่ามีราคาไปเลยใน ebay ครับ (คล้ายกับเซ็ทโมเดล อินเดียนน่าโจนส์ ที่นั่งมอเตอร์ไซด์คู่กับพ่อ เซ็ทนี้ก็เป้นของเล่นโมเดลที่หายากมากๆ...ถ้าเป็นของจริงครับ)




Back To The Future Trilogy trailer

มันทำให้เวลาเราดุเราฝันอยากเป็นเด็กอีกครั้งเลยครับ  เจาะเวลาหาอดีตให้อะไรกับคนดูมากมายทั้งความฝันแบบเด็กๆ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว อีกหนึ่งหนังที่ถ้าผมมีลูกจะให้ดูเป็นเรื่องแรกๆเลยครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 26, 2020, 02:31:54 pm โดย TEAW »


---------------------------
   

Group: Global Moderator
Hero Member
*****

กระทู้: 1420
https://www.avelaclinique.com/


ต้องขอบคุณ สตีเว่น สปีลเบิร์กและ โรเบิร์ต เซเมคิส ที่ ออกแบบ สร้างจินตนาการ จากคอมพิวเตอร์ หุ่นจำลอง สลิง ออกมาเป็นหนัง ไซไฟ สนุกๆที่ตราตรึงใจคนดูมาจนทุกวันนี้



ที่จำตรึงใจคือรอยไฟที่ล้อหที่ผ่านความเร็วข้ามกาลเวลา




รถบินได้เทพมากมาย แถมด้วยการออกแบบรถ เดโรลีนที่เป็นของสะสมนักดูหนัง



ยังมีเสก็ตบอร์ตลอยได้ รวมถึงการออกแบบรองเท้าไนกี้ในอนาคตที่ทำออกมาขายกันจริงๆเลยครับ โดยแน่นอนว่าหนังสปิลเบิร์ก เอฟเฟคใช้แต่  Industrial Light & Magic ILM ของเพื่อนซี้เสมอครับ



Back to the Future - Behind The Scenes - Secrets Of (1985) - Michael J. Fox HD

Creating Hoverboards - Back to the Future Part 2 Behind the Scenes

Back To The Future III - Behind the Scenes Home Video from the Neighbor's House!!!!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 26, 2020, 02:35:09 pm โดย TEAW »


---------------------------
   

Group: Global Moderator
Hero Member
*****

กระทู้: 1420
https://www.avelaclinique.com/
9.Star Wars Saga 1977





หนังไซไฟที่ทำเงินสูงที่สุดอันดับสองของในโลกเรื่องนี้ ขาดไม่ได้ที่จะติดในอันดับทุกโผทุกสถาบันครับ ยิ่งแปลงค่าเงินเป็นเงินปัจจุบันมันต้องเหยียบรายได้เฉพาะในอเมริกาน่าเกิน 800 ล้านเหรียญครับ (ซึ่งมากกว่า ไททานิค แบบไม่เห็นฝุ่น แพ้แค่ avatar)






ทั้งที่ทุนสร้างแค่สิบล้านเหรียญ ทำไป 700 กว่าล้านทั่วโลก(คิดเป็นเงินปัจจุบันน่าเกินสองพันล้านเหรียญ) นี่คิดแค่เฉพาะภาคแรกนะครับ นี่มี 6 ภาค



แถมตามด้วยภาคที่ 7ที่น่าจะได้ เจเจ อับราม คนทำ Lost และ Star trek มาทำ แต่ย้ายลิขสิทธิ์ไปที่ดิสนีย์ด้วยตัวเลขโคตรมโหฬาร 4000 พันล้านเหรียญ โอ้แม่เจ้า



ผลงานการสร้างแบบทำเอง ตัดเอง อ๊อกเหล็กเอง วางของเอง เขียนบทเอง กำกับเอง ต่อราคานักแสดงเอง ฯลฯ





จน จอร์จ ลูคัส มาก่อกำเนิดบริษัทรับทำเสปเชี่ยลเอฟเฟคร์อันดับต้นๆของโลกอย่าง ILM ที่ทำให้ปัจจุบัน เทคนิคเอพพิโซด 1-3 ที่เล่าย้อนต้นนั้นใช้เสปเชี่ยลเอฟเฟกซ์มากกว่าหุ่นไปหมดเเล้ว



เพราะด้วยงบประมาณที่มันจำกัดมากมาย แต่ทำออกมาได้แบบว่าคนต่อคิวซื้อตั๋วกันแบบยาวเป็นหลายกิโลเมตรเลย







เทคนิคสมัยก่อนไม่มีอะไรมากครับแค่ใช้ บลูสกรีน ผสมกับ Front projection effect





กับหุ่นยนตร์ บังคับผสมกับให้คนสวมชุดเข้าไป หรือใช้ชักมือแบบปัปเป็ดกันเลย




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 29, 2020, 01:37:05 am โดย TEAW »


---------------------------
   

Group: Global Moderator
Hero Member
*****

กระทู้: 1420
https://www.avelaclinique.com/





แถมด้วยโมเดลย่อส่วน (เด่นมากๆในภาคสองและสาม)หุ่นบังคับขนาดเล็ก




และที่ขาดไม่ได้คือการทำดาบเลเซอร์เซเบอร์ ที่ใช้หลอดไฟพลาสติกมาทำกันเลย แต่ดูแล้วสมจริงเพราะ ลูคัสมีดีที่การใช้แสงในหนังครับผม



นี่อาจเป็นหนึ่งในหนังต้นกำเนิดความฝันของนักสร้างหนังในปัจจุบันหลายๆคนอย่าง เจเจ อับราม ,เอ็ท แคทมุลล์ ,ไมเคิล ไอร์เนอร์ หรือแม้เเต่สตีฟ จ็อปป์ ผู้ล่วงลับก้เป็นสาวกเดนตายของหนังเรื่องนี้และได้หนังเรื่องนี้เป็นแรงบันดาลใจจนประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างที่เราทราบๆกันครับ

All Original star wars trailers (1977-1983)

Star Wars: The Making of the Myth

Star Wars Behind The Scenes Part 1 A New Hope Photo Montage



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 26, 2020, 02:51:21 pm โดย TEAW »


---------------------------
   

Group: Global Moderator
Hero Member
*****

กระทู้: 1420
https://www.avelaclinique.com/
10. Toy story และพิกซ่าร์ PIXAR....... 1995





เอ็ด แคทมุลล์หนึ่งในทีมก่อตั้งบริษัทเล็กๆที่ชื่อ พิกซ่าร์ ต้องกราบขอบพระคุณ


นักอนิเมชั่น อย่าง จอห์น แลสเชสเตอร์** ที่มาพัฒนาแบบก้าวกระโดดกับอนิเมชั่นแบบใหม่ และสตีฟ จ็อปป์ เข้ามาเทคโอเวอร์บริษัทที่ จอร์จ ลูคัส ขายทิ้งเพราะปัญหาส่วนตัว ที่ต่ออายุบริษัทมาเรื่อยจนได้ดิสนี่ย์นี่ล่ะเป็นนายทุนใหญ่





**จากหนึ่งในทีมสร้าง ของ Lucas film   John Lasseter ที่แปรผันตัวเอง หลังจากได้ดู Tron เขามุ่งมันทำหนังโดยใช่้คอมฯและคว้าออสการ์จากหนังสั้น  Tin Toy และสร้าง  A Tin Toy Christmas  ในปี 91






 เขานำคาร์เเร้กเตอร์มาใช้กับ Toy story กับทุนสร้างเพียง  $30 ล้าน




และเเล้วพิกซ่าก็เข็นหนังอนิเมชั่นที่เปลี่ยนวงการการ์ตูนไปตลอดกาลในชื่อ Toy Story  ที่พอเปิดหนังตัวอย่างปุ๊ป





คนเห็นตกใจกันเป็นแถบๆว่านี่คือการ์ตูนที่คอมพิวเตอร์ทำขึ้น ไม่ได้ต้องวาดมือกันเเล้ว (แต่ไงภาพร่างก็ใช้มือล่ะนะ)


Toy Story - Official Trailer #1 [1995]






หนังเรื่องนึงผมไม่แน่ใจว่ามีกี่เฟรมเเต่คิดง่ายๆน่าจะเกิน 100,000 เฟรม



เอาง่ายๆว่าหนึ่งเฟรมใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมงและใช้ คอมพิวเตอร์ ระดับท็อป แบบ วูดู ประมาณ 400 เครื่อง




นี่คืออนิเมชั่นที่เป็นต้นแบบ อนิเมชั่นหนังในปัจจุบัน กับเรื่องราวง่ายๆใกล้ตัวของของเล่นเด็กที่มีในทุกบ้านที่มีเด็ก




มันมีชีวิต เหมือนกับที่เราจินตนาการเล่นตอนเด็กๆ สุดยอดโดนใจเลย แถมภาพ เสียง การเคลื่อนไหวสมจริงลื่นไหล ...ผลงานแบบนี้ต้องขึ้นหิ้งครับ



Toy Story Behind the Scenes Teaser Trailer (1995) - RARE

Vintage 1995 "The Making Of Toy Story"

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 29, 2020, 01:37:28 am โดย TEAW »


---------------------------
   

Group: Global Moderator
Hero Member
*****

กระทู้: 1420
https://www.avelaclinique.com/
11. Nausicaa of the Valley of the Wind 1984  ... Studio Ghibli ... Hayao Miyazaki




หนึ่งในบริษัทที่เป็นหน้าเป็นตาให้ชาวเอเชีย





ที่สรรหาทำหนังที่มีเเนวทางและลายเส้นแบบของตนชัดเจนนั่นก็คือ สตูดิโอ จิบลิ โดยผู้ก่อตั้งตือ ฮายาโอะ มิยาซกิ และ อิซาโอะ ทาเคฮาตะ






ทั้งคู่ไม่ได้ทำหนัง Nausicaa of the Valley of the Wind เป็นเรื่องแรกนะครับ จริงๆเรื่องแรกที่ทำอย่างเป็นทางการชื่อว่า Laputa : Castle in the sky แต่ด้วยกระบวนการบางอย่างทำให้ต้องมาจับ Nausicaa of the Valeey of the Wind  ก่อนนั่นเอง


และเจ้า Nausicaa of the Valley of the Wind ที่ฉายในปี 1984 นี่เองคือต้นกำเนิดตราหนังที่ชื่อ สตูดิโอ จิบลิ



เนื้อเรื่องเล่าถึง โลกในอนาคตที่มีเเต่สารพิษ มีแต่สัตว์ประหลาดและพวกกลายพันธ์ มนุษย์ที่เหลือรอดอยู่ในหุบเขาแห่งสายลม



งานเส้นและจินตนาการตัวละคร ภาพ สิ่งประดิษฐ์และสัตว์ประหลาดที่ทีมงานของ ฮายาโอะ สร้างสรรค์ขึ้นมา



มันเหมือนภาพวาดแรกในถ้ำโบราณ คือมันสร้างมาจากจินตนาการที่ไม่ได้ลอกเลียนใครคิดเองล้วนๆ และต่างกับตัวหนังสือการ์ตูนไปไกลมาก



ทำให้ตัวละครที่สร้างขึ้นมาไม่ว่าจะร้าย เลว แค่ไหน มันมีความน่ารัก สวยงามซ่อนอยู่เสมอ นี่เองเป็นเหตุให้เหล่าตัวละครที่เป็นของเล่นของสตูดิโอจิบลิ ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า แม้ว่าในหนังหลายๆเรื่องจะไม่ประสบความสำเร็จด้านรายได้นักก็ตาม



และสัญลักษณ์อีกอย่างที่มักมีในหนังของสตูดิโอนี้คือ




การนำตัวละครพวกวิญญาณ สัตว์ในตำนาน เทพ มาใช้แบบไม่เคอะเขิน เหมือนอิงศาสนาเล็กๆ มีใส่ชีวิตประจำวันง่ายๆ ภาพวาดของชนบทสังคมที่ต่างจากเมืองชัดเจน





ความสัมพันธ์ของครอบครัวก็ชอบใส่มาในหนัง แต่ก็มีการวิพากย์วิจารณ์สงครามเเละความเชื่อในการ์ตูนแทบทุกเรื่องแบบเจ็บๆครับ



NAUSICAÄ OF THE VALLEY OF THE WIND (1984) Trailer

The Birth of Studio Ghibli - Part 1 of 3


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 26, 2020, 03:07:55 pm โดย TEAW »


---------------------------
   

Group: Global Moderator
Hero Member
*****

กระทู้: 1420
https://www.avelaclinique.com/
12.Tron 1982





แม้ว่า 2001 จะมาก่อน  แต่ TRON นี่เเหละครับถือเป็นหนังที่ใช้ CG แบบเต็มๆเรื่องแรกที่ยอมรับกันนะครับ



เริ่มแรก ทรอนถูกสร้างตามแนวคิดของเกมส์ แต่ต่อมาถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ที่ใช้ computer graphic เรื่องแรก ที่ริเริ่มโดย วอลดิสนี่ย์(บัวนา วิสต้าร์)



และก็เป็นเรื่องที่แปลกมากเมื่อ TRON ภาคต่อ คือ TRON :LEGACY จะถูกฉายในปี 2010 ซึ่งห่างกันกว่า 30 ปี และนักเเสดงนำคือคนๆเดียวกันคือ JEFF BRIDGES ครับ



โดยภาคเเรกคือ ฟลินน์ โปรแกรมเมอร์คนเก่ง ที่โดนใส่ร้ายและโกงเขาจึงคิดโปรแกรมเจาะหรือแฮกเกอร์เข้าไปในคอมพิวเตอร์คู่แข่งแต่ผลคือเขาถูกดึงเข้ามาในโลกของเกมส์ ส่วนภาคสองเป็นภาคต่อที่ลูกของฟลินน์ตามหาพ่อในเกมส์นั่นเองครับ






ทรอน ภาคแรกเนี่ยเคยเข้าชิงออสการ์มาแล้วในสาขา sound และ costume design แต่ไม่ได้เรื่องเอ็ฟเฟ็กซ์นะครับ เพราะปีนั้นมีเเต่ของเเข็งๆทั้ง E.T.  Blade Runner Poltergeist



ปีนั้นหนังทุนสร้างแค่ 17 ล้านเหรียญนิดๆ จริงๆหนังใช้เทคนิคเดียวกับลูคัส ใน สตาร์วอร์สบางส่วนคือ การใช้ VistaVision ซึ่งเป็นการถ่าย widescreen 35 mm ซึ่งในปัจจุบัน Inception ก็ยังนำ VistaVision  มาใช้อยู่เลยครับ






รวมถึงนำแบรนด์   Super Panavision 70 มาใช้ร่วมในหนัง ซึ่งเป็นแบบเดียวกับหนัง 2001: A Space Odyssey



นอกนั้นใช้ความร่วมมือของ อาตาริ บริษัทเกมส์สมัยนั้นที่นำหนังมารวมกับเกมส์ออกขายร่วมกัน โดยความดูแลของบริษัทที่ทำเอฟเฟคแรกที่ชื่อ Information International, Inc.

1982 - Tron - Trailer

LOG #4 - TRON 1982 and 2010 Scene Comparison

TRON LEGACY - COMPUTER REALITIES - 1982 TRON

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 29, 2020, 01:37:57 am โดย TEAW »


---------------------------
   


 

Theme © PopularFX | Based on PFX Ideas! | Scripts from iScript4u เมษายน 19, 2024, 09:21:18 pm