หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ยินดีต้อนรับ,บุคคลทั่วไป. กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.
เมษายน 24, 2024, 01:26:33 pm
ข่าว: SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: ฉบับสมบูรณ์ : ลดไขมัน รอยเเตกลาย ลดสัดส่วน ด้วยวิธีไหนดี update2020  (อ่าน 34976 ครั้ง)

Group: Global Moderator
Hero Member
*****

กระทู้: 602
Line ID : doctorteawclinic
ลดไขมัน รอยเเตกลาย ลดสัดส่วน ด้วยวิธีไหนดี อยากรู้ที่นี่มีคำตอบ vaser liposelection laser , Zeltig , liposuction , ดูดไขมัน , กำจัดไขมัน , ลดไขมัน ที่ไหนดี , velasmooth เมโสเเฟด เมโสเทราปี โฮมีโอเทราปี mesofat mesotheraphy homeotheraphy , abdominoplasty , rf radiofrequency , ultrasonic , ultrasonography , อ้วนลงพุง Metabolic syndrome  ที่ไหนดี รักษาที่ไหนดี แนะนำที่รักษา เเนะนำเเพทย์ เเนะนำคลินิค ที่ไหนดี ราคา รีวิว  เลเซอร์ลดน้ำหนัก เครื่องมือแพทย์ลดน้ำหนัก ยาลดน้ำหนัก ฮอร์โมนลดน้ำหนัก เมโสเทราปี โฮมีโอเทราปี คาร์บอกซี่ เวเซอร์ ไลโป ผ่าตัด ดูด ไขมัน ฉีดยาละลายไขมัน เลเซอร์เย็น อัลตร้าไลโป คืออะไร , เครื่องมือกลุ่มคลื่นวิทยุ หรือ Radio-Frequency <RF> , การใช้คลื่นเสียง (Ultrasound) , thermage thermacool , ulthera , Carboxytheraphy ,การผ่าตัดดูด Liposuction หรือตัดไขมัน Abdominoplasty , การใช้ความเย็นละลายไขมันหรือ ZERONA หรือ Cold Laser หรือ Cryopolysis หรือ Zeltiq , การใช้ฮอร์โมนลดความอยากอาหาร , Combination : Elos Technology ที่ไหนดี รักษาที่ไหนดี แนะนำที่รักษา เเนะนำเเพทย์ เเนะนำคลินิค ที่ไหนดี ราคา รีวิว  [/size]




บทความทางการเเพทย์เพิ่มเติม อ่านได้ที่
https://www.route035.com/webboard/index.php?board=6.0












https://www.route035.com/webboard/index.php?topic=248.0
ulthera vs thermage vs botox vs ร้อยไหม ใครดีสุดในโลก

















ปัจจุบันการลดความอ้วนเป็นเป็นของคนหนุ่มสาวไปจนถึงวัยเกษียณ เพราะนอกจากการลดความอ้วนจะทำให้ดูสวยงามเเล้ว สุขภาพที่ดีก็จะตามมาด้วยเช่นกัน เเต่จากชีวิตในสังคมเมืองที่รีบร้อน การเลือกทานอาหารขยะ



การไม่ออกกำลังกาย การเข้ากลุ่มสังคมที่ชอบทานสุรา การติดอินเตอร์เน็ตเกมส์ออนไลน์  ฯลฯ ล้วนเเต่เป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดความอ้วนทั้งนั้น ทำไมค่าของคนที่มีน้ำหนัก "เกิน" มากขึ้นกว่าช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมา เป็นกว่าสิบเท่าตัว








ดังนั้นจึงเกิดธุุรกิจ สถาบันลดน้ำหนักมากมาย บ้างก็ใช้เครื่องมือคุณภาพ บ้างก็ใช้เครื่องมือขยะจากประเทศจีน เอาเเต่ขายคอร์ส พอลูกค้าซื้อก็ทิ้งลูกค้า ทั้งๆที่  “บรรยายสรรพคุณกันจนวาดฝันว่าโอ่งมันจะกลายเป็นเสาไฟฟ้าในไม่กี่วัน ขายฝันกันจนเคลิ้ม”




นี่ไม่รวมถึง ศูนย์ฟิตเนสชื่อก้องเมืองไทย ที่มาทำสมาชิกตลอดชีวิต หลอกขายเเล้วก็เจ๊ง ล้มบนฟูก บังคับให้สมาชิกจ่างเงินเพิ่มซะอีกน่ะ  เเต่อย่างว่าสังคมเมืองไทย จะไปทำอะไรเขาได้ครับ










ดังนั้นความรู้เรื่องความอ้วน เรื่องรอยเเตกลาย การดูเเลโดยไม่ต้องอาศัยเครื่องมือไปจนถึงการใช้เครื่องมือดีๆ หรือเครื่องมือลดน้ำหนักระดับผ่านมาตรฐาน อย อเมริกา จึงเป็นสิ่งที่ต้องรู้ จะได้ไม่ต้องถูกหลอกกันอีกครับ




บทความนี้จะบอกตั้งเเต่ สาเหตุของความอ้วน สถิติ วิธีการคุมอาหาร การออกกำลังกาย ไปจนถึงการเลือกเครื่องมือจากคลินิกหรือสถาบันความงามที่มีมาตรฐาน ทำเเล้วได้ผล ไม่ได้เอาเงินไปละลายทิ้งครับ





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 21, 2022, 09:27:41 am โดย NOODLE M.D. »


---------------------------
"อาชีพแพทย์นั้นมีเกียรติ แพทย์ที่ดีจะไม่ร่ำรวย แต่ก็ไม่อดตาย ถ้าใครอยากร่ำรวย ก็ควรเป็นอย่างอื่นไม่ใช่แพทย์…" จำได้ไหมว่าเป็นคำพูดของท่านผู้ใด

https://www.route035.com/webboard/index.php?board=6.0

https://bit.ly/3PQ19qE
https://www.avelaclinique.com/
   

Group: Global Moderator
Hero Member
*****

กระทู้: 602
Line ID : doctorteawclinic
บทความนี้ผมทำต่อเนื่องมากจากบทความ



https://www.route035.com/webboard/index.php?topic=168.0
หัวข้อ: ทำความรู้จัก + เข้าใจแบบง่ายๆ กับ เลเซอร์-เครื่องมือลดน้ำหนัก ในประเทศไทย 1









ดังนั้นจะเรียกบทความนี้ว่า ทำความรู้จัก + เข้าใจแบบง่ายๆ กับ เลเซอร์-เครื่องมือลดน้ำหนัก




ในประเทศไทย 2 ภาคความรู้ทุกเรื่องเเบบสรุปเลยก็ได้ครับ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 25, 2021, 04:17:48 pm โดย TEAW »


---------------------------
"อาชีพแพทย์นั้นมีเกียรติ แพทย์ที่ดีจะไม่ร่ำรวย แต่ก็ไม่อดตาย ถ้าใครอยากร่ำรวย ก็ควรเป็นอย่างอื่นไม่ใช่แพทย์…" จำได้ไหมว่าเป็นคำพูดของท่านผู้ใด

https://www.route035.com/webboard/index.php?board=6.0

https://bit.ly/3PQ19qE
https://www.avelaclinique.com/
   

Group: Global Moderator
Hero Member
*****

กระทู้: 602
Line ID : doctorteawclinic
Q : เมื่อไหร่ เราถึงจะเรียกว่าอ้วน ?









A: ผมเองมีโอกาสได้เทรนด์เรื่องการลดน้ำหนักจากมหาวิทยาลัย ฮาวาร์ด สหรัฐอเมริกา โดยเขามักเน้นเรื่อง Lifestyles มากกว่าการใช้ยานะครับ เลยจะเน้นเรื่องการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม แต่คนไทยนิยมการใช้ยาเเละเครื่องมือ



ดังนั้นผมจะประยุกต์มาเขียนรวมๆกันไปเเล้วกันครับ





“อ้วน”  ถ้ามีคนมาทักเราด้วยคำพูดนี้ หลายๆคนคงงงเละไม่รู้ตัวว่าตอนนี้เราอ้วนแล้วหรือ เพราะปัจจุบันจะพบว่าคนทั่วโลกแม้แต่ประเทศไทย มีปัญหาน้ำหนักเกินและโรคอ้วนเพิ่มจำนวนสูงขึ้น (มากกว่า 6% ของจำนวนประชากร)



จนเป็นปัญหาโรคเรื้อรังทางการแพทย์ติดอันดับหนึ่งในสามของโลกเลยทีเดียว









นอกจากนี้ปัญหาเรื่องความอ้วนยังนำพามาซึ่งโรคต่างๆที่เกี่ยวเนื่องกันไม่ว่าจะเป็นปัจจัยก่อโรคไขมันในเส้นเลือดสูง 




โรคหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคกระดูกและข้อ  โรคมะเร็งบางชนิด รวมทั้งปัญหาด้านความงาม การขาดความมั่นใจกังวลในรูปร่าง ฯลฯ





คำจำกัดความของคำว่าอ้วนนั้น มีหลายตำรา หลายสำนัก ที่ให้คำจำกัดความของคำว่าอ้วน ไม่ว่าจะอ้างอิงน้ำหนัก อ้างอิงอัตราน้ำหนักกับส่วนสูง อ้างอิงปริมาณไขมันเฉพาะส่วน เรื่อยไปจนถึงวัดเส้นรอบเอว




จนพัฒนามาเป็นคำว่า อ้วนลงพุง Metabolic syndrome ที่ต้องมาเจาะเลือดดูค่า น้ำตาล ไขมัน เเละตรวจวัดความดัน ที่ปัจจุบัน เริ่มหันมาใช้คำน้ีมากที่สุด เพราะได้ความหมายที่ชัดเจน การนำไปใช้ การเเปรผลได้หลายหลาก เเละในต่างประเทศนิยมใช้อ้างอิง คำว่า อ้วนลงพุง Metabolic syndrome  มากที่สุด









โรคอ้วน มีสาเหตุมากมาย จากพฤติกรรมการรับประทานอาหารและการใช้ชีวิต โรคหรือภาวะบางอย่างเช่น โรคไทรอยด์ โรคเนื้องอกบางชนิด การใช้ยา เช่นกลุ่มเสตรียรอยด์  ฯลฯ




ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน อธิบายว่า “อ้วน” คือ การที่มีเนื้อและไขมันมากหรือสั้นๆว่า โตอวบ
เกณฑ์การทราบว่า “อ้วน” หรือมีน้ำหนักเกินนั้นมีวิธีการมากมาย เช่น









การวัดดัชนีมวลกาย(BMI) ใช้ Body Mass Index โดยใช้สูตร น้ำหนัก(กิโลกรัม)/ส่วนสูงเป็นกิโลกรัม คนปกติจะมีค่าในผู้หญิงที่ 19-24 และผู้ชายที่ 20-25




การวัดปริมาณไขมันโดยใช้กระแสไฟฟ้าอ่อน <Bioelectrical Impedance Analysis (BIA)>




การใช้ เครื่องมือ ง่ายๆอย่าง caliper  หรือ Skin Fold Caliper เป็นการใช้เครื่องมือทางการแพทย์วัดขนาดความหนาของผิว โดยการใช้ คาร์ลิปเปอร์จับที่ต้นแขน(ประมาณ1/3 ของความยาวนับจากศอก  ถ้าหนามากกกว่า ¾ นิ้ว ถือว่ามีไขมันมาก




การใช้สูตร เช่น นำความสูงมาลบด้วย 100 แล้วลบด้วย 10% ซึ่งวิธีการต่างๆก็สามารถจะบอกได้คร่าวๆว่า มีภาวะความอ้วนหรือน้ำหนักเกินอยู่หรือไม่ เช่น คนมีส่วนสูง 160 เซนติเมตร ก็จะเท่ากับ 60-6 =54 กิโลกรัม 




โดยถ้าหนักมากกว่า15-18% และ 18-20% ในผู้ชายและผู้หญิง ตามลำดับ จะถือว่ามีภาวะอ้วนเกิดขึ้น



ในส่วนการวินิจฉัยโรคอ้วนลงพุง หรือ Metabolic syndrome บางครั้งเรียก syndrome X นั้นต้องประกอบด้วย การตรวจวัดเอวหนึ่งค่ารวมกับตรวจด้านอื่น 2 ใน 4 ข้อ คือ การตรวจวัดว่ามีเส้นรอบเอวมากกว่า 90 ซม.เเละ 80 ซม.




ในชายและหญิงตามลำดับ(ค่าในบางประเทศอาจต่างไปเล็กน้อย)และมีภาวะดังต่อไปนี้อย่างน้อย 2 ข้อจาก 4 ข้อ ได้เเก่











ความดันโลหิตมากกว่า 130/85 หรือเป็น ผู้ที่ได้รับยารักษาความดันโลหิต
ระดับ Triglyceride >150 mg% หรือผู้ที่เป็นไขมันสูงและได้รับยาลดไขมัน
ระดับ HDL > 40,50 (ชายและหญิง) หรือผู้ที่เป็นไขมันสูงและต้องได้รับยาลดไขมัน
ระดับน้ำตาลสูงกว่า 100 mg% หรือผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นเบาหวานชนิดที่2












« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 25, 2021, 04:19:28 pm โดย TEAW »


---------------------------
"อาชีพแพทย์นั้นมีเกียรติ แพทย์ที่ดีจะไม่ร่ำรวย แต่ก็ไม่อดตาย ถ้าใครอยากร่ำรวย ก็ควรเป็นอย่างอื่นไม่ใช่แพทย์…" จำได้ไหมว่าเป็นคำพูดของท่านผู้ใด

https://www.route035.com/webboard/index.php?board=6.0

https://bit.ly/3PQ19qE
https://www.avelaclinique.com/
   

Group: Global Moderator
Hero Member
*****

กระทู้: 602
Line ID : doctorteawclinic
Q: ทำไมคำว่า อ้วนลงพุง Metabolic syndrome   ถึงสำคัญ มันหมายความว่าอะไร ?









A: คำว่า อ้วนลงพุง Metabolic syndrome   สำคัญมากครับ เพราะจากการศึกษามากมาย เเล้วเก็บป็นสถิติพบว่า คนที่เข้าเกณฑ์การเป้นโรค อ้วนลงพุง Metabolic syndrome   นั้นมีโอกาสเกิดโรคต่างๆตามมามากมายรวมถึงอัตราการตายที่มากกว่าคนปกติ เช่น โอกาสเป็นเบาหวานมากกว่าปกติ 24 เท่าถ้ามีเกณฑ์ครบทั้งสี่ข้อ




เเต่ถ้าเป้นโรคเมตาโบลิคที่มีเกณฑ์ 2 ใน 4 ข้อ มีโอกาสเป็นโรคหัวใจ เเละหลอดเลือดสมองมากกว่าปกติ 2-3 เท่าเลยทีเดียว ดังนั้น การตรวจเเค่วัดค่า BMI หรือวัดรอบเอว อาจจะไม่เพียงพอในสังคมปัจจุบันเพราะบอกค่าความละเอียดของโอกาสการเกิดโรคเหมือนการตรวจโรคอ้วนลงพุงไม่ได้ เเต่อย่างไรก็ดี มีเเพทย์หลายท่านก็เพียงเเนะนำว่าการจะกะเกณฑืเกี่ยวกับความอ้วนนั้นยากควร

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 25, 2021, 04:19:56 pm โดย TEAW »


---------------------------
"อาชีพแพทย์นั้นมีเกียรติ แพทย์ที่ดีจะไม่ร่ำรวย แต่ก็ไม่อดตาย ถ้าใครอยากร่ำรวย ก็ควรเป็นอย่างอื่นไม่ใช่แพทย์…" จำได้ไหมว่าเป็นคำพูดของท่านผู้ใด

https://www.route035.com/webboard/index.php?board=6.0

https://bit.ly/3PQ19qE
https://www.avelaclinique.com/
   

Group: Global Moderator
Hero Member
*****

กระทู้: 602
Line ID : doctorteawclinic
Q: ลดความอ้วนด้วยเครื่อง v... ที่เจาะผิวเป็นรูเล็กๆเเล้วปล่อยคลื่นละลายไขมัน ดีไหม ?











A: ในส่วนตัวผมว่าเครื่องนี้เหมาะกับศัลยเเพทย์ตกเเต่งมากกว่าเเพทย์ทั่วไปจะนำมาใช้ เพราะการเจาะผิว เล็กๆเเล้วปล่อยคลื่นวิทยุเข้าไปละลายไขมันเเล้วดูดออกมา ปลอดภัยไม่มีรอย  เเม้จะโฆษณาว่าเจาะเป็นรูเล็กๆ เป็นเเผลเล็กๆเเละปลอดภัย




เเต่ในความเป็นจริงทุกเคสที่ผมเจอรับรักษาต่อคือปัญหาด้านรอยดำ รอยเเผลจากการเย็บ รวมถึงผิวตะปุ่มตะป่ำไม่เรียบ ถ้าเป้นผมผมว่าได้ไม่คุ้มเสีย เพราะการใช้เครื่องพวกนี้ต้องทำโดยเเพทยืศัลกรรมพลาสติกมากกว่าที่จะมีวางเกร่อกันในคลินิคทั่วไปที่เห็นหาได้ในหลายๆคลินิคเเถวสยามกันเลย


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 25, 2021, 04:20:21 pm โดย TEAW »


---------------------------
"อาชีพแพทย์นั้นมีเกียรติ แพทย์ที่ดีจะไม่ร่ำรวย แต่ก็ไม่อดตาย ถ้าใครอยากร่ำรวย ก็ควรเป็นอย่างอื่นไม่ใช่แพทย์…" จำได้ไหมว่าเป็นคำพูดของท่านผู้ใด

https://www.route035.com/webboard/index.php?board=6.0

https://bit.ly/3PQ19qE
https://www.avelaclinique.com/
   

Group: Global Moderator
Hero Member
*****

กระทู้: 602
Line ID : doctorteawclinic
Q: เเล้วเครื่องมือเเพทย์อะไรใช้ลดน้ำหนักดี มีอะไรบ้าง เเต่ละอย่างทำอะไร ยังไง ผลเป็นอย่างไร ?




A: ผมดึงบทความอันเก่าที่ผมเคยเขียนมาทั้งดุ้นเลยละกันครับ ดังนี้ครับ





1.เครื่องมือกลุ่มคลื่นวิทยุ หรือ Radio-Frequency <RF>










ได้แก่
“เครื่องกำเนิดคลื่นวิทยุ” นั้นหน้าที่ก็คือการส่งคลื่นวิทยุในความยาวคลื่นต่างๆออกมาโดยมากใช้ที่ความยาวประมาณ0.3- 6 เมกกะเฮิร์ต  คลื่นวิทยุหรือคลื่นเสียงนี้เมื่อถูกส่งมายังผิวหนังก็จะทำให้เกิดการสั่นสะเทือนและแปรเปลี่ยนเป็นความร้อน








ทำให้บริเวณผิวชั้นใต้ผิวสัมผัสจะมีความร้อนสูงขึ้นประมาณ 3-5 องศาเซลเซียส แล้วจะถูกดูดซับไปยังส่วนต่างๆของชั้นใต้ผิวหนังก่อให้เกิดการกำจัดผิวส่วนเกินของผิวชั้นนอก เพิ่มการไหลเวียนของโลหิตและน้ำเหลือง (ทำให้เพิ่มการกำจัดของเสีย)การกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่









รวมถึง การละลายของไขมันส่วนเกิน ผลจึงทำให้ทำให้ผิวมีความตึงขึ้น เนียนเรียบขึ้น รวมถึงลดเซลลูไลต์ที่มีอยู่ตามผิวเปลือกส้ม 








เครื่องมือในตระกูลนี้ได้แก่ เครื่องมือกลุ่ม Monopolar Radiofrequency เช่น Thermage









ข้อดีของเครื่องมือกลุ่ม คือได้ผลดีมากๆทำเพียง 2-5 ครั้งก็พอเพียง แต่ราคาค่อนข้างที่จะสูงมากในหลักสองหมื่นขึ้นไปต่อคอร์ส กับอาจมีความรู้สึกเจ็บบ้างในการทำได้และต้องอาศัยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงในการทำเพื่อให้ได้ผลที่ดีและปลอดภัย









นอกจากกลุ่ม monopolar ก็ยังมีกลุ่ม Bipolar ,Tripolar  Multipolar  เช่น Relax-F ,Tripolar-Plus etc. เครื่องมือในกลุ่มนี้ ราคาไม่แพงอยู่ที่หลักประมาณหนึ่งพันบาทขึ้นไปต่อครั้ง ได้ผลเป็นที่น่าพอใจแต่ต้องทำต่อเนื่องหลายครั้ง ข้อดีอีกข้อคือขณะทำไม่เจ็บเหมือนเครื่องมือกลุ่มแรก แถมราคาสบายกระเป๋า ถ้าสถานพยาบาล(หรือไม่พยาบาล)ที่ใดใช้เครื่องมือที่มีคุณภาพ มีมาตรฐาน ก็สมควรกับการลงทุนครับ





2.การใช้ยาหรือสารส่งเข้าสู่ผิวผ่านการทา รับประทาน หรือการฉีด ที่เรารู้จักกันในชื่อ Mesotheraphy และ Homeotheraphy









กระบวนการโฮมีโอเทราปีคือการปรับสมดุลในร่างกาย เป็นแพทย์ทางเลือกสมัยใหม่ที่นำหลักการของศาสตร์แพทย์ยุคเก่า(มากกว่าสองร้อยปี)มาใช้ คล้ายๆกับการฝังเข็ม แต่อาศัยหลักการสมดุลของมวลสารและพลังงาน










การเติมสารและพลังงานทดแทนเข้าไป พิสูจน์แล้วว่าได้ผลในการรักษาโรคบางโรค เช่น ไข้หวัด เวียนศีรษะ โดยสารที่นำเข้ามาใช้ในกระบวนการโฮมีโอเทราปีมักมาจากธรรมชาติเป็นหลัก ในส่วนของการลดน้ำหนักยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมอีกสักระยะ เพราะมีหลายรายงานผลออกมาขัดแย้งหรือไม่เห็นการเปลี่ยนแปลง









ส่วนเมโสเทราปี เป็นการนำยาหรือสารสกัดที่มีหน้าที่ต่างๆนำสู่ร่างกาย เช่น L-Carnitine ,Vitamin B-Complex , Phosphatidycholine , Caffeine และสารกสกัดเกลือแร่อื่นๆ ที่มีหน้าที่ในการขนส่งไขมัน เผาผลาญไขมัน รวมถึงลดการสะสมไขมัน ในตำแหน่งนั้นๆ โดยการทา นวด หรือนำเข้าสู่ไขมันโดยตรงทั้งการใช้ไฟฟ้าหรือการฉีด เข้าสู่ชั้นไขมันโดยตรง









ทั้งสองวิธีนี้มีข้อดีที่ราคาไม่สูงมากนักราคาประมาณหลักพันบาทถึงสามพันบาทต่อครั้ง หลังทำสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ ไม่มีแผล แต่ข้อเสียก็คืออาจเกิดการแพ้ยาได้ในคนไข้บางประเภท โดยในคนที่แพ้มักเป็นผื่นคันอยู่ประมาณ 1-3 วันแต่ไม่ได้รุนแรงใดๆ แต่การทำนั้นต้องปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเสมอ เพราะยังไงก็นับว่าเป็นยาที่มีการแพ้หรืออาจต้องการการฉีด



*ปัจจุบันเป้นการทราบดีเเล้วว่ายาเมโสฉีดละลายไขมันนั้นไม่ผ่าน อย ไทยนะครับ เเถมบางที่เคลมเอายาเมโสที่จดทะเบียนเเบบทามาฉีดเฉยเลย





Q:  เมโสเทราปี หรือ Mesotheraphy เมโสไขมัน หรือ ฉีดเมโสละลายไขมัน หรือพวก เซลลูเฟส(celluphase) คือ อะไร ละลายไขมันได้จริงหรือ ?









A: ไม่จริงครับ ถ้าคุณมาดูที่กล่องของขวดเมโสชนิต่างๆหรือจะ เซลลูเฟส  Meso , celluphase ที่ใช้ในการฉีด ที่อ้างกันว่า เป็นยาที่ฉีดเพื่อละลายไขมัน ฉีดปลูกผม ฉีดลดรูขุมขน ฯลฯ ในส่วนการลดไขมันที่ส่วนต่างๆของร่างกาย ที่เรียกกันว่า เมโสแฟท นั้น "ไม่ผ่าน อย ในการฉีด เพราะจดทะเบียนในรูปยาทา" ทั้งประโยชน์ ในการใช้และผลข้างเคียงที่อาจเกิด












เพราะ เมโส ฯ ทั้งหลายเนี่ยไม่ว่าจะ ใช้กับ ผม รูขุมขน ลดไขมัน นั้น ใช้วิธีจดทะเบียน ยาในรูปเครื่องสำอางค์ เป็น " ยาทา " ไม่ใช่ สำหรับฉีด เลยครับ ..... นั่นหมายความว่าอย่างไร









ง่ายๆครับ เป็นวิธีซิกเเซกที่นำยาทาที่สถานบริการหลายเเห่งมาใช้ฉีด ( เหมือนการร้อยไหมที่จดทะเบียน ในรูปไว้ใช้เย็บแผล แต่เอามาร้อยหน้ากันนั่นล่ะครับ  อ่านเรื่องร้อยไหม ได้ที่ อันตรายร้อยไหม.... คิดก่อนทำ.... อ่านที่นี่ก่อนดีไหมครับ


https://www.route035.com/webboard/index.php?topic=202.0  ) เพราะยาหลายๆตัว ถ้าจดทะเบียนในรูปยาทา มันผ่าน อย ง่ายๆๆๆ - ง่ายมาก แต่ถ้าจดทะเบียนในรูปยาฉีดล่ะก็ ไม่ผ่าน  อย แน่นอน ครับ



มันเป็นวิธีที่สมัยนี้นิยมกันเหลือเกิน 








แค่นี้ก็คงบอกเจตนาได้นะครับ ว่า การ "ฉีดเมโสแฟด เป็นเรื่องจริงหรือหลอกลวงครับ รวมถึงผลข้างเคียง อันตรายในอนาคต " จริงอยู่บางที่อาจผสม เสตรียรอยด์ ( Triamcinolone acetonide ) ที่มีหน้าที่ละลายไขมันที่เราใช้ฉีดสิว มันก็ทำลายไขมันได้ เเต่ผลข้างเคียง ตัวใครตัวมันครับ 




ลองดูนี่ก็ได้ครับ ผลของการฉีดเมโสเเฟด หรือเมโสละลายไขมัน ที่ไม่ได้จดทะเบียนยาในรูปของยาฉีด เป็นยังไง








เครดิต : http://pantip.com/topic/32578784

ลองอ่านกันเอาเองครับผม




3.การใช้คลื่นเสียง (Ultrasound)








เป็นคลื่นเสียงที่ปล่อยออกมาเฉพาะเจาะจง(โฟกัส) ไปยังจุดต่างๆที่มีไขมัน โดยพลังงานของคลื่นเสียงจะทำลายก้อนไขมันโดยตรงทำให้ไขมันละลายเป็นส่วนที่เหลวและถูกดูดซึมผ่านระบบน้ำเหลืองหรือดูดออกมาโดยตรง









เครื่องมือที่ใช้หลักการนี้ได้แก่ Vaser-Liposelection  ซึ่งต้องทำการสอดท่อเข้าไปในชั้นผิวหนังเพื่อปล่อยคลื่นเสียงและดูดเอาไขมันออกมา






ข้อดีคือกำจัดไขมันได้มากโดยมีแผลเล็กๆเท่านั้นสามารถทำงานได้ปกติ แต่ข้อเสียคือมีราคาค่อนข้างสูงในหลักหลายหมื่น  และต้องอาศัยห้องผ่าตัดเล็กที่มีความสะอาดสูงในการทำ







นอกจากนี้บางครั้งบริเวณที่ทำอาจไม่เรียบเนียนเสมอกันต้องใช้ผ้ารัดไว้ระยะหนึ่ง ผมเจอเคสเป็นรอยจากการเย็บเเผลโดยเเพทย์ที่ไม่ใช่ศัลยเเพทย์ตกเเต่ง ดังนั้นการทำเครื่องมือที่ต้องเจาะต้องทำโดยศัลยเเพทย์ตกเเต่งเท่านั้น...ไม่งั้นตัวใครตัวมันครับ







อีกเครื่องมือหนึ่งที่ใช้ระบบนี้ คือ Ultralipo ที่อาศัยเครื่องมือนวดด้านนอกเพื่อส่งคลื่นเสียงผ่านผิวหนังเข้าไป โดยไม่ต้องทำการผ่าตัดใดๆ ข้อดีคือไม่ต้องการห้องผ่าตัดเล็ก ปลอดภัย และราคาไม่แพงมาก ส่วนอัลต้าไลโปนั้นอาจมีความรู้สึกแสบหูขณะที่ทำ ข้อเสียคือ องค์การอาหารและยาในหลายประเทศยังไม่ได้ให้การรับรองวิธีนี้ ซึ่งต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมกันอีกสักระยะหนึ่ง




4.การใช้ก๊าซฉีดละลายไขมัน หรือที่เรียกว่า Carboxytheraphy







 เป็นการฉีดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไปในบริเวณที่มีไขมันแล้วเกิดการทำปฏิกิริยากับน้ำในร่างกาย ทำให้เกิดภาวะกรด-ด่าง ส่งผลให้ไขมันบางส่วนถูกทำลาย และเพิ่มการไหลเวียนโลหิตในการกำจัดของเสีย
 










ข้อดี คือราคาไม่แพงเพียงหลักร้อยบาท ปลอดภัย(ทำโดยแพทย์เท่านั้น) ข้อเสียคือค่อนข้างปวดขณะที่ทำ รวมถึงต้องการการทำที่ต่อเนื่อง ถ้าใครถอดใจก็จบกัน เเละปัจจับันในส่วนตัวผมพบว่าไม่ได้ผลจริงเท่าที่ควร (แทบไม่ได้ผลอย่างคำกล่าวอวดอ้าง)

 




5.การละลายไขมันด้วยแสงและเลเซอร์






 ในปัจจุบันมีการนำแสง LEDs ในกลุ่มแสงสีเหลือง แดง และเขียว เพื่อกระตุ้นเพิ่มการไหลเวียนโลหิตของเส้นเลือดเล็กๆและทำให้เกิดความร้อน รวมทั้งการนำเลเซอร์สอดผ่านผิวหนังเพื่อทำลายไขมัน







แต่โดยส่วนใหญ่แสงแอลอีดีมักจะไม่ค่อยเฉพาะเจาะจงกับไขมัน ส่วนตัวเลเซอร์เองก็มักจะทำให้เกิดการไหม้จะเกินควบคุมได้ วิธีนี้จึงไม่ขอแนะนำ เพราะในประสบการณ์มันแย่มากกว่าดีครับ
   



6.การผ่าตัดดูด Liposuction หรือตัดไขมัน Abdominoplasty






กรณีนี้ขออธิบายเฉพาะการดูดไขมัน  ในอดีตการดูดไขมันนั้นมักต้องทำการรักษาตัวหลังผ่าตัดเป็นเวลานาน เป็นแผล มีผลข้างเคียงจากการดมยาสลบ บางครั้งมีการเสียเลือดอย่างมากจนต้องให้เลือดหลังทำ และเจ็บปวดอย่างมาก






แต่ในปัจจุบันท่อที่ใช้ในการสอดดูดไขมันนั้นมีขนาดเล็กมากๆ แค่ประมาณ 3 มิลลิเมตร ใช้ท่อดูดที่เล็กมากๆ การฟื้นตัวจึงระยะสั้นเพียงหนึ่งถึงสองสัปดาห์ และดูดไขมันได้ในปริมาณมากกว่า 5,000 ซีซี








ข้อดีคือกำจัดไขมันได้ปริมาณมาก ข้อเสียคือราคาค่อนข้างสูงในหลักหลายหมื่นบาท และยังต้องการการดูแลหลังผ่าตัด แต่โดยทั่วไปในประการณ์ได้ผลดีมากๆครับ



การผ่าตัดลดความอ้วนอื่นๆก็มี เช่น  การใส่ห่วงกระเพาะอาหาร (gastric band) หรือการทำทางอ้วนให้อาหารถูกย่อยผ่านกระเพาะได้น้อยลง <Gastric Bypass>




7การใช้ความเย็นละลายไขมันหรือ ZERONA หรือ Cold Laser หรือ Cryopolysis หรือ Zeltiq






 หลักการแนวใหม่นี้คือการนำทฤษฎีทางพยาธิวิทยาที่ว่า เซลล์ของเรามีการถูกสั่งให้ทำลายตัวเอง <apoptosis> เมื่อมีสภาวะที่เหมาะสม หนึ่งในนั้นสำหรับเซลล์ไขมันคือความเย็น โดยการนำหลักการดังกล่าวมาใช้จะมีเครื่องมือที่ส่งผ่านความเย็นผ่านผิวยหนังลงไปที่เซลล์ไขมันที่ต้องการที่ระดับประมาณ -5 องศาเซลเซียสในระยะเวลาหนึ่ง








เซลล์ไขมันจะมีการทำลายตนเองและหลอมละลายออกมาเองผ่านทางท่อน้ำเหลืองเพื่อนำออกจากร่างกายโดยกระบวนการธรรมชาติ ข้อดีของวิธีนี้ก็คือ ไม่มีแผลใดๆ เห็นผลได้เลยหลังทำในระยะเวลาไม่กี่ชั่วโมง(เห็นผลระดับหนึ่ง) ข้อเสียคือราคาแพงหลักหมื่นถึงแสนบาทและต้องทำหลายครั้ง จึงเกิดการเปรียบเทียบกับการผ่าตัดเสมอ




8.การใช้ฮอร์โมนลดความอยากอาหาร







ปัจจุบันมีการสังเคราะห์หรือสกัดฮอร์โมนออกมามากมายหลายชนิด ฮอร์โมนเหล่านี้มีหน้าที่ไปลดความอยากอาหาร โดยไปยับยั้งการทำงานของสมองส่วนที่สั่งให้เกิดความรู้สึกหิว ขณะเดียวกันก็ไปกระตุ้นสมองส่วนที่สั่งการให้อิ่มให้ทำงานมากขึ้น  โดยมีงานวิจัยในเรื่องนี้ออกมาต่อเนื่อง









ฮอร์โมนเหล่านี้ได้แก่ Leptin , PPY , CCK+ , L-Phenylalanine ,Oxyl-Tomodyline แต่ในส่วนของการใช้ฮอร์โมนนี้ยังต้องการผลการรองรับจากองค์การอาหารและยาอยู่ แต่ผมก็เห็นขายกันในเน็ทกระจาย ไม่รู้ อย.เมืองนี้เขาทำอะไรกันอยู่ขายกันเป็นล่ำเป็นสัน เฮ้อ...ประเทศไทย





9.การศึกษาวิธีต่างๆ ****ล่าสุด****







ปัจจุบันพบว่า ถ้าเราไม่ทำอะไรเลยแต่อาศัยการนอนมากๆในแต่ละวันก็พบว่าน้ำหนักตัวมีแนวโน้มลดลงโดยไม่ต้องออกกำลังกายใดๆเลย หรือ แม้แต่การรับประทานอาหารกลุ่มโปรตีน<Low Carb ของดร.แอดกิ้นส์>ให้มากกว่าพวกผักผลไม้ (เเม้ตัวดอกเตอร์เองจะเสียชีวิตจากโรคไขมันก็ตาม)








ทั้งๆที่เดิมแพทย์ชอบแนะนำให้ทานผักผลไม้มากๆในการลดน้ำหนัก ก็พบว่าลดน้ำหนักได้มากกว่าปกติเช่นกัน (แต่ในหลายงานวิจัยก็มีข้อขัดแย้ง)






****10. Combination : Elos Technology









จัดเป็นวิธีที่ดีที่สุดในปัจจุบันครับ โดยเฉพาะเครื่องที่ชื่อ  Velasmooth 2 นะครับ ของ syneron ที่เป้นเครื่องเเรก เเละเครื่องเดียวที่ผ่าน อย อเมริกาในการลดน้ำหนัก ทำได้เเม้เเต่รอยเเตกลาย โดยไม่เจ็บครับ หลักการคือมีการทำงานร่วมของ Infared ร่วมกับ RF เเล้วใช้ roller กับ vacuum เป็นตัวดูดผิวเข้าไปให้ อินฟาเรตกับ คลื่นวิทยุทำการละลายไขมันครับ ตัว เวลาสมู๊ดทูนี่ดีกว่ารุ่นเเรกมากมายนะครับ นับเป็นตัวที่ผมประทับใจที่สุดครับ





ดังจะเห็นได้ว่าวิธีทางการแพทย์ในปัจจุบันมีวิธีมากมายที่ใช้ในการกำจัดไขมันออกจากร่างกาย แต่ละวิธีก็มีค่าใช้จ่าย การปฏิบัติตัวหลังทำและผลข้างเคียงที่เตกต่างกันไป








ดังนั้นในการจะเลือกวิธีใดๆนั้น เราต้องคำนวณถึงผลดี ผลเสียของแต่ละวิธีก่อนจะตัดสินใจทำเสมอ  แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ผมจะแนะนำได้คือ กฎของการลดน้ำหนักมีสามข้อคือ หนึ่ง ใจ สอง ใจ สามก็ใจอีกนั่นแหละ








เพราะการลดน้ำหนักนั้นต้องอาศัยใจที่มุ่งมั่น แน่วแน่ และมีวินัยในการคุมอาหารและออกกำลังกายเสมอ










แต่ถ้าไม่สามารถทำได้สามอย่างนี้เราค่อยมาเลือกวิธีทางการแพทย์เป็นทางเลือกสุดท้ายครับ
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 25, 2021, 04:23:52 pm โดย TEAW »


---------------------------
"อาชีพแพทย์นั้นมีเกียรติ แพทย์ที่ดีจะไม่ร่ำรวย แต่ก็ไม่อดตาย ถ้าใครอยากร่ำรวย ก็ควรเป็นอย่างอื่นไม่ใช่แพทย์…" จำได้ไหมว่าเป็นคำพูดของท่านผู้ใด

https://www.route035.com/webboard/index.php?board=6.0

https://bit.ly/3PQ19qE
https://www.avelaclinique.com/
   

Group: Global Moderator
Hero Member
*****

กระทู้: 602
Line ID : doctorteawclinic
Q: รอยเเตกลายเกิดจากอะไร ?








A: รอยเเตกลายมีชื่อทางการเเพทย์ว่า ( striae gravidarum) บางครั้งเรียกว่า straie เฉยๆ ชอบพบมากที่บริเวณที่มีไขมันส่วนไม่ค่อยได้ใช้ เช่น ท้องเเขน ต้นขา ก้น ท้อง เป็นต้น  รอยเเตกลาย หรือผิวเเตกลายจัดเป็น บาดเเผลชนิดหนึ่งครับ



เป็นบาดเเผลที่ผิวหนังที่เกิดจากการฉีกขาดของเซลล์ผิวเเละคอลาเจน ทำให้เกิดเเผลตื้นเล็กๆ(บางคนสังเกตุเห้นได้ว่าช่วงเเรกมักเเดงหรือสีชมพู








ในทางการเเพทย์คือการเกิด atrophy ของผิว(หรือผิวยุบถูกทำลายไป) มีหลายคนที่เกิดภาวะสีด่างร่วมด้วย(สีที่เเตกลายมักจะสีอ่อนกว่าปกติ)  พบได้มากในคนอ้วนทั่วไป การเพิ่มหรือลดหรือเปลี่ยนเเปลงน้ำหนักอย่าเร็ว คนท้อง เด็กในภาวะเติบโตก็พบได้



นอกจากนี้ยังพบได้ในคนที่ใช้เสตียรอยด์ด้วย บาดเเผลประเภทนี้ส่วนใหญ่สามารถหายได้เองนะครับ เเต่ก็มีคนไข้บางส่วนที่ไม่หายเช่นกัน คนไข้ที่ไม่หายมักจะกังวลกับเรื่องความสวยงามเป้นหลัก ทั้งๆที่มันก็ไม่ได้อันตรายใดๆครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 25, 2021, 04:24:52 pm โดย TEAW »


---------------------------
"อาชีพแพทย์นั้นมีเกียรติ แพทย์ที่ดีจะไม่ร่ำรวย แต่ก็ไม่อดตาย ถ้าใครอยากร่ำรวย ก็ควรเป็นอย่างอื่นไม่ใช่แพทย์…" จำได้ไหมว่าเป็นคำพูดของท่านผู้ใด

https://www.route035.com/webboard/index.php?board=6.0

https://bit.ly/3PQ19qE
https://www.avelaclinique.com/
   

Group: Global Moderator
Hero Member
*****

กระทู้: 602
Line ID : doctorteawclinic
Q : มีวิธีรักษารอยเเเตกลาย อะไรบ้าง ยังไง ได้ผลเเค่ไหน ?









A:  รอยเเตกลาย ท้องเเตกลาย ผิวเเตกลาย หรือเรียกว่า striae , stretch marks  นั้นมีคำเเนะนำในการรักษามากมายทั้ง
การทาด้วยครีมกลุ่มวิตามินเอ หรือ retinoids อันนี้ได้ผลดีถ้าไม่เป็นมาก


 
การทำคาร์บอกซี่แบบสอยลาย (อันนี้อิงว่าไม่ค่อยได้ผล หรือไม่ได้ผลเลย ไม่ทราบว่าความรู้ด้านการสอยลายตั้งต้นมาจากที่ใด)
การทำการกรอผิว หรือ  dermabrasion อันนี้ได้ผลระดับหนึ่ง
การกรอผิวด้วยสารเคมี (chemical peeling) อันนี้ได้ผลใกล้เคียงกับการกรอผิว









การใช้เลเซอรืที่ซ่อมเเซมผิวกระตุ้นคอลลาเจนบางตัว เช่น กลุ่ม long pulsed อย่าง laser genesis ผมใช้ตัวนี้เป็นหลัก ก็ได้ผลดีมากครับ
การใช้เลเซอร์กลุ่ม pulsed dye 585-595 nm พบว่าได้ผลดีไม่ต่างกับ long pulsed ครับ



การใช้คลื่นวิทยุ พบว่าได้ผลบ้างในบางเคส เพราะส่วนใหญ่เป็นเครื่อง bipolar rf ที่ยังไม่ดีพอ เเต่พบว่าถ้าเป็น tripolar ได้ผลดีมากครับ
กลุ่มคลื่นเสียง อย่าง ulthera nt ได้ผลดีเช่นกันเเต่ราคาจะสูงมากครับ









สรุปโดยทั่วไปที่ผมใช้รักษาคนไข้ผมมักจะใช้หลายตัวร่วมกันทั้ัง Genesis + Tripolar Rf +/- pulsed dye หรือไม่ก็ dual nt ครับ ผลคือได้ผลดีมากในเวลาเเค่เดือนเดียวครับ











« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 25, 2021, 04:25:24 pm โดย TEAW »


---------------------------
"อาชีพแพทย์นั้นมีเกียรติ แพทย์ที่ดีจะไม่ร่ำรวย แต่ก็ไม่อดตาย ถ้าใครอยากร่ำรวย ก็ควรเป็นอย่างอื่นไม่ใช่แพทย์…" จำได้ไหมว่าเป็นคำพูดของท่านผู้ใด

https://www.route035.com/webboard/index.php?board=6.0

https://bit.ly/3PQ19qE
https://www.avelaclinique.com/
   

Group: Global Moderator
Hero Member
*****

กระทู้: 602
Line ID : doctorteawclinic
Q: สาเหตุของความอ้วน คืออะไร?




A: ความอ้วนจัดเป็นดรคที่มีปัจจัยหลากหลายและมีสาเหตุที่แตกต่างกันไป อาจมีแค่ปัจจัยหรือสาเหตุเดียว หรือหลายๆอันพร้อมๆกันก็ยังได้ เช่น
 



 




ปัจจัยภายใน: เช่น




-พฤติกรรม : ตามใจปาก ตามใจสังคม ตามใจความคิด ตามใจความต้องการ มีนิสัยที่ขาดของขบเคี้ยวหรือทานจุกจิกไม่ได้ ,นิสัยติดของหรือขนมบางอย่าง (เพื่อนผมคนหนึ่ง ติด ช็อกโกแล็ต M&M มากมากวันๆต้องกินสองห่อ 



ขาดการออกกำลังกายหรือขี้เกียจ ,นอนไม่เป็นเวลาเดี๋ยวนอนมาก เดี๋ยวนอนน้อย บางทีวันๆไม่นอนเลยยังมี (การพักผ่อนน้อย ร่างกายมักสั่งให้กหาพลังงานมาเพิ่มเติมอัตโนมัติ) ,ทำงานที่โต๊ะมากเกินไปโดยเฉพาะกับคอมพิวเตอร์ (ในคำตอบเดียวกันคือร่างกายจะสั่งให้หาอาหารหรือพลังงานมาให้ร่างกายเพราะการที่สมองเริ่มล้า)




-จิตใจ : จากภาวะผิดปกติของจิตใจ  การโกรธ อกหักเสียใจ เครียดนอนไม่หลับ สามารถกระตุ้นให้ร่างกายต้องการสารอาหารเพิ่มเติมได้









 -กรรมพันธุ์ : มีรายงานสถิติทางการแพทย์พบว่าถ้าบิดาหรือมารดาคนใดคนหนึ่งในครอบครัวใดๆเคยมีประวัติมีภาวะความอ้วน ลูกที่เกิดมีโอกาสอ้วนได้ 40%   




 -เพศ พบว่าผู้หญิงมีโอกาสอ้วนได้มากกว่าผู้ชายในอัตราส่วน 4:1 เลยทีเดียว




-อายุ ในสมัยก่อนพบว่าอายุที่มักจะพบความอ้วนมากๆคือวันทำงาน(25-35) แต่ปัจจุบันพบได้ทุกช่วงอายุ แม้แต่เด็กห้าขวบก็พบ




-นิสัย : เที่ยวดึก ทานสุราแทนน้ำ ทานเบียร์แทนข้าว




 ปัจจัยภายนอก :   




    -โรคประจำตัว เช่น เบาหวาน,ความดันโลหิตสูง โรคไทรอยด์ โรคจิต




    -จากยาบางชนิด เช่นกลุ่ม เสตรียรอยด์ ฮอร์โมนเพศหญิง ยาคุมกำเนิด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 25, 2021, 04:26:11 pm โดย TEAW »


---------------------------
"อาชีพแพทย์นั้นมีเกียรติ แพทย์ที่ดีจะไม่ร่ำรวย แต่ก็ไม่อดตาย ถ้าใครอยากร่ำรวย ก็ควรเป็นอย่างอื่นไม่ใช่แพทย์…" จำได้ไหมว่าเป็นคำพูดของท่านผู้ใด

https://www.route035.com/webboard/index.php?board=6.0

https://bit.ly/3PQ19qE
https://www.avelaclinique.com/
   

Group: Global Moderator
Hero Member
*****

กระทู้: 602
Line ID : doctorteawclinic
Q: เเล้วจะเลือกรักษาที่ไหนดี เลือกยังไง ?










A: จริงๆเเล้วการเลือกนั้นไม่จำเป็นต้องมีเครื่องเลเซอร์ที่ดีมากระดับอย อเมริกาก็ได้นะครับ (แต่ถ้าผ่าน อย อเมริกา ผมว่าจะยิ่งดี 55 ) เพราะอาจารย์ผมบางท่านท่านรักษาฝ้าใช้วิธี เเค่ Soft Pelling ด้วย chemical peeling ตระกูล jessner , Modified Jessner , Blue peeling etc. ก็สามารถทำได้ดีครับ เเต่เเพทย์ต้องชำนาญจริงๆเท่านั้นเพราะ การใช้สารเคมีเเบบนี้ไหม้เอาง่ายๆครับ




ดังนั้นหลักการสำคัญก็เหมือนเคย ควรเลือกเเพทย์ที่ดี ที่น่าเชื่อถือ มีวุฒิ ไม่เอาเเต่ชักเเม่น้ำขายของ เพราะผมว่าจะหาได้ยากนะครับที่คุณจะเดินเข้าคลินิกเขา เเล้วเขาบอกว่าทำไม่ได้ หรือเครื่องมือที่เขามีไม่เหมาะกับคุณ








 ดังนั้นถ้าเเพทย์ที่ดี ที่น่าเชื่อถือเขาสามารถบอกความจริงเเก่คุณได้ว่าเครื่องมือที่เขามีสามารถรักษาคุณได้จริงไหม ได้ระยะเวลาเท่าไหร่  ไม่ใช่เอาเเต่โม้หรือมั่วไปเรื่อยว่าทำได้ อยูได้เป็นปีอะไรประมาณนี้ เเล้วคุณก็ลองดูเครื่องมือเขาว่าดีจริงไหมเพราะพวกนี้มัน search net ได้อยู่เเล้วว่าผ่าน อย อเมริกาจริงไหม เพราะคลินิคที่ใหญ่ บางครั้งก็อาจจะไม่ได้ใช้เครื่องมาตรฐานเสมอไปครับ








สรุปก็คือดูที่เเพทย์ก่อนเลย ถ้าเเพทย์น่าเชื่อถือ เป็นหมอที่เป็นหมอ ไม่ใช่นักธุรกิจในคราบหมอ คุณจงไปหาเขา ต่อให้เขาอยู่ไกลเเค่ไหนคุณก็ควรไปครับ เพราะสิ่งที่คุณได้นอกจากผลการรักษาที่ดี ที่น่าพอใจ เเล้วยังคุ้มค่ากับเงินที่ต้องเสียไป เเถมไม่มีผลข้างเคียงให้เสียใจเเบบในข่าวครับผม






Q: มีวิธีลดความอ้วนเเบบง่ายๆไหม ทำไม เอะอะอะไรก็ใช้เเต่เครื่องมือเเพทย์ เข้าคอร์สนั่นนี่ ?



A: มีสิครับ ในส่วนของเนื้อหามีกฎของการลดความอ้วนที่เเนะนำง่าย เพียงแค่เปลี่ยนพฤติกรรม หรือ lifestyle  ซึ่งตาม  Lifestyle Medicine for Weight Management โดย Edward M. Phillips, MD , Harvard Medical School  ได้แนะนำ ไว้หลายข้อ เช่น



-ทานให้ช้าและนาน  : พบว่าการรับประทาน อาหารให้ช้าลง เคี้ยวให้ละเอียด ทานให้นานขึ้นจะทำให้เราทานได้น้อยลง



-ทานน้ำเยอะ : การทานน้ำมากๆนั้นนอกจากจะทำให้กระบวนการย่อยสลายอาหารดีขึ้นแล้วยังทำให้ร่างกายรู้สึกอิ่มได้เร็วขึ้นด้วย แนะนำทานน้ำประมาณ สองแก้วก่อนการทานอาหาร



- งดนอนดึก งดเคร่งเครียด : การที่เรานอนดึกหรือทำงานใดๆติดต่อกันเป็นเวลานานๆจะทำให้สมองเกิดความล้าและเกิดการสั่งให้หาพลังงานมาเติม ทั้งๆที่พลังงานจากอาหารเรารับประทาน ก่อนหน้านั้นก็เพียงพออยู่แล้ว



-ออกกำลังกายให้พอเพียง : ในปัจจุบันความสะดวกสบายของเทคโนโลยี นำมาซึ่งการขาดการออกกำลังกายที่จะช่วยเผาผลาญพลังงานส่วนเกินออกไปได้ เพียงแค่การเดินเร็วๆสัก 10-15 นาที ก็สามารถเผาผลาญพลังงานส่วนเกินในแต่ละวันได้ รวมทั้งยังทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้ดีขึ้นด้วย







-ประเภทอาหาร : เคยมีรายงานการวัดค่าพลังงาน (แคลลอรี่) พบว่า ถ้าเราทอดไข่เจียวในน้ำมันธรรมดา อาจจะให้พลังงานถึง 500 KCAL แต่ในขณะที่ถ้าเราทอดโดยวิธีการปราศจากน้ำมันกลับให้พลังงงานไม่ถึง 100 KCAL ดังนั้นถ้าเราเปลี่ยนพฤติกรรมการเลือกชนิดอาหารที่ทอดให้น้อย ลวกหรือทอดโดยปราศจากน้ำมันให้มาก



ก็สามารถลดพลังงานส่วนเกินจากอาหารที่เรารับประทานในแต่ละมื้อได้อย่างมากมาย ข้อแนะนำที่เหมาะสมของพลังงานจากอาหารคือ 50 30 20 ได้แก่ เลือกรับประทานอาหารพวก คาร์โบไฮเดรตในปริมาณ 50% ไขมัน 30% โปรตีน 20% โดยมีอาหารครบทั้งห้าหมู่



-ใจ : สิ่งที่สำคัญที่สุดในการลดน้ำหนักคือ ใจครับ ถ้ามีใจมั่นคง และแน่วแน่ในการลดน้ำหนัก แค่เพียงอย่างเดียวก็สามารถลดน้ำหนักได้แล้วนะครับ



แต่ถ้าเราทำตามข้อแนะนำดังกล่าวแล้วไม่ได้ผลหรือทำไม่ได้ ก็แนะนำว่าควรปรึกษาแพทย์ เพื่อที่จะนำวิธีการต่างๆเข้ามาช่วยในการลดน้ำหนักหรือลดสัดส่วนที่เกิน





นายแพทย์สิทธิพงศ์ ฬาพานิช (หมอเตี๋ยว หมอกวยเตี๋ยว )
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 25, 2021, 04:27:24 pm โดย TEAW »


---------------------------
"อาชีพแพทย์นั้นมีเกียรติ แพทย์ที่ดีจะไม่ร่ำรวย แต่ก็ไม่อดตาย ถ้าใครอยากร่ำรวย ก็ควรเป็นอย่างอื่นไม่ใช่แพทย์…" จำได้ไหมว่าเป็นคำพูดของท่านผู้ใด

https://www.route035.com/webboard/index.php?board=6.0

https://bit.ly/3PQ19qE
https://www.avelaclinique.com/
   


 

Theme © PopularFX | Based on PFX Ideas! | Scripts from iScript4u เมษายน 24, 2024, 01:26:33 pm