This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
Messages - VOW CU59
หน้า: [1]
1
« เมื่อ: เมษายน 09, 2011, 11:23:03 pm »
ถ้าสุนัขแข็งแรงดี ก็สามารถทำวัคชีนต่อได้เลยครับ เพี่ยงแต่ว่าจะต้องดูว่าสุนัขเคยทำวัคซีนอะไรไปบ้าง จะต้องฉีดกระตุ้นกี่ครั้ง คุณหมอจะบอกเองครับ
2
« เมื่อ: มีนาคม 05, 2011, 01:33:39 am »
พอได้สุนัขกลับบ้านแล้วต้องดูแลอย่างไร จะแจ้งให้ทราบตอนหน้านะครับ
3
« เมื่อ: มีนาคม 05, 2011, 01:33:05 am »
ข้อแนะนำข้อที่สอง เลือกสุนัขที่แข็งแรง ร่าเริง ไม่มีน้ำมูก ขี้ตา หรือ อึติดก้น สุนัขต้องไม่ผอม อันนี้ต้องเอามือลูกคลำตามตัวต้องมีกล้ามเนื้อพอสำควร ถ้ามีแต่กระดูกแสดงว่าสุนัขอาจป่วยอยู่ หรือไม่แข็งแรง เปิดปากดูว่ามีแผลมั้ย เหงือกต้องเป็นสีชมพู ตามตัวต้องไม่มีแผล ตุ่มหนอง รังแค เห็บ หมัด เหา พอเลือกสุนัขได้ ลองถามดูถึงเรื่องการทำวัคซีนของทั้งแม่และลูกดูนะครับ ควรต้องทำทั้งแม่และลูก และควรทำวัคซีนและถ่ายพยาธิ ก่อนซื้ออย่างน้อยหนึ่งอาทิตย์ เพราะถ้าน้อยกว่านั้นสุนัขที่ได้รับเชื้อโรคมาแล้วอยู่ที่ฟาร์มมักแข็งแรงดี พอเรามาเลี้ยงสองสามวันเริ่มป่วย เพราะเชื้อโรคมันฟักตัวจนมากพอทำให้เกิดโรคตอนเราเลี้ยงทุกที พอสอบถามกับฟาร์มส่วนใหญ่มักปฏิเสธความรับผิดชอบ ให้เรารับกรรมต่อไป
4
« เมื่อ: มีนาคม 05, 2011, 01:31:24 am »
ข้อแนะนำข้อแรกในการซื้อสุนัขคือ ซื้อจากแหล่งที่มีสุนัขน้อยที่สุดเท่าที่ทำได้ หลายคนอาจถามว่าที่ไหนหว่า ถ้าที่ดีที่สุดก็คือบ้านที่เลี้ยงสุนัขแล้วสุนัขของเค้าคลอดลูกออกมา ถ้าแม่สุนัขทำวัคซีนเป็นประจำยิ่งทำให้ตัวสุนัขนั้นมีภูมิต้านทานจากโรค แต่ภูมิคุ้มกันที่ได้จากแม่นี้จะน้อยลงเรื่อยๆเมื่ออายุมากขึ้น เราต้องทำวัคซีนตามโปรแกรม โดยปกติก็เริ่มที่ สองเดือน ถ้าหาตามบ้านไม่ได้ ก็คงแนะนำให้ดูตามฟาร์มที่ดูน่าเชื่อถือ มีการจัดการที่ดี ดูสะอาด ส่วนมากเค้ามักจะเอาลูกมาโชว์ ซึ่งมักจะสวยงาม น่ารัก น่าเลี้ยง ถ้าไปดูที่ฟาร์มได้จะดีมากเพราะเราจะเห็นถึงการดูแลฟาร์มของเค้า ถ้าไปซื้อตามแหล่งรวมสุนัขเยอะๆ เช่นตลาดนัด งานประกวดสุนัข มักมีโอกาสเสี่ยงสูงครับ
5
« เมื่อ: มีนาคม 05, 2011, 01:30:11 am »
สุนัขตัวที่เป็นสามารถแพร่เชื้อได้จากสิ่งคัดหลั่ง ดังนั้น การใช้ชามน้ำ ชามอาหารร่วมอยู่ร่วมกัน ทำให้ติดกันได้ จะเห็นได้ว่าเวลาเราไปซื้อสุนัขจากร้าน เจ้าของร้านมักจะไม่ให้เราจับสุนัข เพราะกลัวว่าจะเอาเชื้อจากร้านอื่นมาแพร่ แต่ความเป็นจริง โรคไข้หัดสุนัขสามารถติดทางการหายใจได้ด้วย ถ้ามีสุนัขป่วยเป็นโรคไข้หัดสุนัข สุนัขที่อยู่ในบริเวณใกล้ๆ มักได้รับเชื้อไปด้วย
6
« เมื่อ: มีนาคม 05, 2011, 01:29:08 am »
จากตัวอย่างดังกล่าวคงไม่มีใครอยากให้เกิดกับสุนัขของตัวเอง คำถามก็คือเราจะหลีกเลี่ยงเหตุการณ์อย่างนี้ได้อย่างไร? เราคงต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรคก่อน โรคไข้หัดสุนัข Canine distemper และ โรคลำไส้อักเสบ Canine viral enteritis เป็นโรคติดเชื้อที่สำคัญในลูกสุนัข สามารถติดต่อกันได้ง่ายมาก โดยเฉพาะแหล่งที่มีลูกสุนัขรวมกันเป็นจำนวนมาก
7
« เมื่อ: มีนาคม 05, 2011, 01:27:59 am »
หลังจากนั้นสุนัขก็มีอาการแย่ลง เริ่มจากอาการกระตุกทั้งตัวมากขึ้น ทรงตัวไม่ได้ ช่วงนี้สุนัขยังกินอาหารได้อยู่ แต่พอเป็นมากขึ้นสุนัขก็ไม่รู้สึกตัว และก็เสียชีวิตในที่สุด ตอนนี้ตัวเมียยังรอดไม่มีอาการทางระบบประสาท แต่มีอาการท้องเสียเหมือนตอนที่มี่อาการโรคลำไส้อักเสบ ตอนนี้ก็รอปาฏิหาริย์ ว่าจะรอดชีวิตได้มั้ย เพราะโอกาสรอดชีวิตจากโรคไข้หัดสุนัขมีน้อยมาก หรือถ้ารอดสุนัขอาจมีอาการทางระบบประสาทไปตลอดชีวิต เช่น ชัก หน้ากระตุก เคี้ยวปาก เป็นต้น
8
« เมื่อ: มีนาคม 05, 2011, 01:26:13 am »
หลังจากนอนโรงพยาบาลประมาณหนึ่งอาทิตย์ เจ้าสองตัวก็ได้กลับบ้าน อาการดีขึ้นร่าเริง กินอาหารได้ ถ่ายเริ่มเป็นก้อน แต่มีน้ำมูกเหลืองๆ จากการติดเชื้อทางเดินหายใจ กลับไปวิ่งเล่นที่บ้านได้สองวัน ก็มีอันได้กลับไปโรงพยาบาลอีกรอบ สุนัขตัวผู้เริ่มแสดงอาการชักกระตุกทั้งตัวหลายครั้ง หลังจากนั้นหน้าก็กระตุกเกือบตลอดเวลา หมอสงสัยโรคไข้หัดสุนัข ก็จึงตรวจยืนยันด้วย Distemper testkit ผลการตรวจเป็น positive ส่วนตัวเมียยังไม่มีอาการทางระบบประสาท เช่น อาการหน้ากระตุก ชัก ควบคุมการทรงตัวไม่ได้ สองวันแรกสุนัขยังร่าเริงดี กินอาหารได้ดี มีอาการกระตุกอยู่บ้าง หมอก็ได้ให้ยาระงับประสาทเพื่อลดอาการกระตุก
9
« เมื่อ: มีนาคม 05, 2011, 01:24:25 am »
เนื่องจากกินอาหารไม่ได้เพราะจะกระตุ้นให้มีอาการอาเจียนมากขึ้นจึงต้องให้น้ำเกลืออยู่จนกว่าจะหาย ช่วงวันแรกสุนัขมีอาเจียน และถ่ายเหลวหลายครั้ง สุนัขยังตอบสนองยังไม่ซึมมากนัก แต่วันถัดมาเริ่มอาเจียนและถ่ายมากขึ้นเริ่มมีเยื่อบุผนังลำไส้ออกมาจากอุจจาระ สีอุจาระเป็นสีแดงจากเลือด กลิ่นเหม็นคาวคุ้ง พอถึงช่วงนี้ หมอแจ้งอาการให้ทราบ โอกาสรอดชีวิต พอๆกับโอกาสเสียชีวิต หมอได้ให้ยาต้านเชื้อไวรัส สุนัขน้ำหนักสี่กิโลกรัม ต้องใช้ยาสามขวด ราคาประมาณหมื่นกว่าบาท
10
« เมื่อ: มีนาคม 05, 2011, 01:15:00 am »
https://www.route035.com/webboard/index.php?topic=176.0
หัวข้อ: บทเรียน กลโกง คนซื้อสุนัข ที่จตุจักร ซื้อเเล้ว ป่วย ตาย คนขายให้ยาม้า
https://www.route035.com/webboard/index.php?topic=7.0
หัวข้อ: เลือกซื้อสุนัขอย่างไรให้รอดชีวิต
https://www.route035.com/webboard/index.php?topic=214.0
หัวข้อ: รวมสถานที่ อุปการะ สุนัข แมว จรจัด คนใจบุญ ที่รักสัตว์
เมื่อคืนนี้ผมเพิ่งพาสุนัขของญาติข้างบ้านพาไปรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์ เป็นลูกสุนัขพันธ์ไซบีเรียน สองตัว เพศผู้และเพศเมีย อายุ สองเดือน หลังจากเลี้ยงได้สองวันสุนัขมีอาการท้องเสีย ซึม เบื่ออาหาร อาเจียน หลังจากตรวจอาการหมอสงสัยว่าสุนัขจะติดเชื้อไวรัสลำไส้อักเสบ จึงตรวจยืนยันด้วย parvavirus testkit ผลการตรวจเป็น positive ทั้งสองตัวจึงต้องฝากรักษาที่โรงพยาบาล เพราะสุนัขที่ป่วยเป็นโรคลำไส้อักเสบ สุนัขจะมีอาการ อาเจียน ถ่ายเหลว ร่างกายสุนัขจะขาดน้ำ
หน้า: [1]