Route035 > Beauty World

อยากลดน้ำหนักกับ "แพทย์" ให้ถูกวิธี มาทางนี้ update2020

(1/2) > >>

NOODLE M.D.:
บทความทางการเเพทย์เพิ่มเติม อ่านได้ที่
https://www.route035.com/webboard/index.php?board=6.0





















https://www.route035.com/webboard/index.php?topic=248.0
ulthera vs thermage vs botox vs ร้อยไหม ใครดีสุดในโลก










อ่านเพิ่มเติมได้ที่
https://www.route035.com/webboard/index.php?topic=194.0



หัวข้อ: ลดไขมัน รอยเเตกลาย ลดสัดส่วน ด้วยวิธีไหนดี เลเซอร์หรือเวเซอร์ ดี vaser laser อยากรู้ที่นี่มีคำตอบ




ลดความด้วย โดยเเพทย์ เครื่องมือทางการแพทย์ ที่ใช้ลดความอ้วย ยาลดความอ้วน




อยากลดน้ำหนักกับแพทย์ให้ถูกวิธี มาทางนี้







ผมเองมีโอกาสได้เทรนด์เรื่องการลดน้ำหนักจากมหาวิทยาลัย ฮาวาร์ด สหรัฐอเมริกา โดยเขามักเน้นเรื่อง Lifestyles มากกว่าการใช้ยานะครับ เลยจะเน้นเรื่องการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม แต่คนไทยนิยมการใช้ยาเเละเครื่องมือ ดังนั้นผมจะประยุกต์มาเขียนรวมๆกันไปเเล้วกันครับ




“อ้วน”  ถ้ามีคนมาทักเราด้วยคำพูดนี้ หลายๆคนคงงงเละไม่รู้ตัวว่าตอนนี้เราอ้วนแล้วหรือ เพราะปัจจุบันจะพบว่าคนทั่วโลกแม้แต่ประเทศไทย มีปัญหาน้ำหนักเกินและโรคอ้วนเพิ่มจำนวนสูงขึ้น (มากกว่า 6% ของจำนวนประชากร) จนเป็นปัญหาโรคเรื้อรังทางการแพทย์ติดอันดับหนึ่งในสามของโลกเลยทีเดียว
 


นอกจากนี้ปัญหาเรื่องความอ้วนยังนำพามาซึ่งโรคต่างๆที่เกี่ยวเนื่องกันไม่ว่าจะเป็นปัจจัยก่อโรคไขมันในเส้นเลือดสูง  โรคหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคกระดูกและข้อ  โรคมะเร็งบางชนิด รวมทั้งปัญหาด้านความงาม การขาดความมั่นใจกังวลในรูปร่าง ฯลฯ




NOODLE M.D.:
โรคอ้วน มีสาเหตุมากมาย จากพฤติกรรมการรับประทานอาหารและการใช้ชีวิต โรคหรือภาวะบางอย่างเช่น โรคไทรอยด์ โรคเนื้องอกบางชนิด การใช้ยา เช่นกลุ่มเสตรียรอยด์  ฯลฯ





ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน อธิบายว่า “อ้วน” คือ การที่มีเนื้อและไขมันมากหรือสั้นๆว่า โตอวบ
เกณฑ์การทราบว่า “อ้วน” หรือมีน้ำหนักเกินนั้นมีวิธีการมากมาย เช่น




การวัดดัชนีมวลกาย(BMI) ใช้ Body Mass Index โดยใช้สูตร น้ำหนัก(กิโลกรัม)/ส่วนสูงเป็นกิโลกรัม คนปกติจะมีค่าในผู้หญิงที่ 19-24 และผู้ชายที่ 20-25



การวัดปริมาณไขมันโดยใช้กระแสไฟฟ้าอ่อน <Bioelectrical Impedance Analysis (BIA)>










การใช้ เครื่องมือ ง่ายๆอย่าง caliper  หรือ Skin Fold Caliper เป็นการใช้เครื่องมือทางการแพทย์วัดขนาดความหนาของผิว โดยการใช้ คาร์ลิปเปอร์จับที่ต้นแขน(ประมาณ1/3 ของความยาวนับจากศอก  ถ้าหนามากกกว่า ¾ นิ้ว ถือว่ามีไขมันมาก




การใช้สูตร เช่น นำความสูงมาลบด้วย 100 แล้วลบด้วย 10% ซึ่งวิธีการต่างๆก็สามารถจะบอกได้คร่าวๆว่า มีภาวะความอ้วนหรือน้ำหนักเกินอยู่หรือไม่ เช่น คนมีส่วนสูง 160 เซนติเมตร ก็จะเท่ากับ 60-6 =54 กิโลกรัม  โดยถ้าหนักมากกว่า15-18% และ 18-20% ในผู้ชายและผู้หญิง ตามลำดับ จะถือว่ามีภาวะอ้วนเกิดขึ้น


NOODLE M.D.:
สาเหตุของความอ้วน



ความอ้วนจัดเป็นดรคที่มีปัจจัยหลากหลายและมีสาเหตุที่แตกต่างกันไป อาจมีแค่ปัจจัยหรือสาเหตุเดียว หรือหลายๆอันพร้อมๆกันก็ยังได้ เช่น
 








ปัจจัยภายใน: เช่น



-พฤติกรรม : ตามใจปาก ตามใจสังคม ตามใจความคิด ตามใจความต้องการ มีนิสัยที่ขาดของขบเคี้ยวหรือทานจุกจิกไม่ได้ ,นิสัยติดของหรือขนมบางอย่าง (เพื่อนผมคนหนึ่ง ติด ช็อกโกแล็ต M&M มากมากวันๆต้องกินสองห่อ  ขาดการออกกำลังกายหรือขี้เกียจ ,นอนไม่เป็นเวลาเดี๋ยวนอนมาก เดี๋ยวนอนน้อย บางทีวันๆไม่นอนเลยยังมี (การพักผ่อนน้อย ร่างกายมักสั่งให้กหาพลังงานมาเพิ่มเติมอัตโนมัติ) ,ทำงานที่โต๊ะมากเกินไปโดยเฉพาะกับคอมพิวเตอร์ (ในคำตอบเดียวกันคือร่างกายจะสั่งให้หาอาหารหรือพลังงานมาให้ร่างกายเพราะการที่สมองเริ่มล้า)



-จิตใจ : จากภาวะผิดปกติของจิตใจ  การโกรธ อกหักเสียใจ เครียดนอนไม่หลับ สามารถกระตุ้นให้ร่างกายต้องการสารอาหารเพิ่มเติมได้








 -กรรมพันธุ์ : มีรายงานสถิติทางการแพทย์พบว่าถ้าบิดาหรือมารดาคนใดคนหนึ่งในครอบครัวใดๆเคยมีประวัติมีภาวะความอ้วน ลูกที่เกิดมีโอกาสอ้วนได้ 40%   



 -เพศ พบว่าผู้หญิงมีโอกาสอ้วนได้มากกว่าผู้ชายในอัตราส่วน 4:1 เลยทีเดียว



-อายุ ในสมัยก่อนพบว่าอายุที่มักจะพบความอ้วนมากๆคือวันทำงาน(25-35) แต่ปัจจุบันพบได้ทุกช่วงอายุ แม้แต่เด็กห้าขวบก็พบ



-นิสัย : เที่ยวดึก ทานสุราแทนน้ำ ทานเบียร์แทนข้าว



 ปัจจัยภายนอก :   



    -โรคประจำตัว เช่น เบาหวาน,ความดันโลหิตสูง โรคไทรอยด์ โรคจิต



    -จากยาบางชนิด เช่นกลุ่ม เสตรียรอยด์ ฮอร์โมนเพศหญิง ยาคุมกำเนิด

NOODLE M.D.:








ในส่วนของเนื้อหามีกฎของการลดความอ้วนที่เเนะนำง่าย เพียงแค่เปลี่ยนพฤติกรรม หรือ lifestyle  ซึ่งตาม  Lifestyle Medicine for Weight Management โดย Edward M. Phillips, MD , Harvard Medical School  ได้แนะนำ ไว้หลายข้อ เช่น



-ทานให้ช้าและนาน  : พบว่าการรับประทาน อาหารให้ช้าลง เคี้ยวให้ละเอียด ทานให้นานขึ้นจะทำให้เราทานได้น้อยลง



-ทานน้ำเยอะ : การทานน้ำมากๆนั้นนอกจากจะทำให้กระบวนการย่อยสลายอาหารดีขึ้นแล้วยังทำให้ร่างกายรู้สึกอิ่มได้เร็วขึ้นด้วย แนะนำทานน้ำประมาณ สองแก้วก่อนการทานอาหาร






- งดนอนดึก งดเคร่งเครียด : การที่เรานอนดึกหรือทำงานใดๆติดต่อกันเป็นเวลานานๆจะทำให้สมองเกิดความล้าและเกิดการสั่งให้หาพลังงานมาเติม ทั้งๆที่พลังงานจากอาหารเรารับประทาน ก่อนหน้านั้นก็เพียงพออยู่แล้ว



-ออกกำลังกายให้พอเพียง : ในปัจจุบันความสะดวกสบายของเทคโนโลยี นำมาซึ่งการขาดการออกกำลังกายที่จะช่วยเผาผลาญพลังงานส่วนเกินออกไปได้ เพียงแค่การเดินเร็วๆสัก 10-15 นาที ก็สามารถเผาผลาญพลังงานส่วนเกินในแต่ละวันได้ รวมทั้งยังทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้ดีขึ้นด้วย



-ประเภทอาหาร : เคยมีรายงานการวัดค่าพลังงาน (แคลลอรี่) พบว่า ถ้าเราทอดไข่เจียวในน้ำมันธรรมดา อาจจะให้พลังงานถึง 500 KCAL แต่ในขณะที่ถ้าเราทอดโดยวิธีการปราศจากน้ำมันกลับให้พลังงงานไม่ถึง 100 KCAL ดังนั้นถ้าเราเปลี่ยนพฤติกรรมการเลือกชนิดอาหารที่ทอดให้น้อย ลวกหรือทอดโดยปราศจากน้ำมันให้มาก ก็สามารถลดพลังงานส่วนเกินจากอาหารที่เรารับประทานในแต่ละมื้อได้อย่างมากมาย ข้อแนะนำที่เหมาะสมของพลังงานจากอาหารคือ 50 30 20 ได้แก่ เลือกรับประทานอาหารพวก คาร์โบไฮเดรตในปริมาณ 50% ไขมัน 30% โปรตีน 20% โดยมีอาหารครบทั้งห้าหมู่



-ใจ : สิ่งที่สำคัญที่สุดในการลดน้ำหนักคือ ใจครับ ถ้ามีใจมั่นคง และแน่วแน่ในการลดน้ำหนัก แค่เพียงอย่างเดียวก็สามารถลดน้ำหนักได้แล้วนะครับ



แต่ถ้าเราทำตามข้อแนะนำดังกล่าวแล้วไม่ได้ผลหรือทำไม่ได้ ก็แนะนำว่าควรปรึกษาแพทย์ เพื่อที่จะนำวิธีการต่างๆเข้ามาช่วยในการลดน้ำหนักหรือลดสัดส่วนที่เกิน

NOODLE M.D.:
ในทางการแพทย์ปัจจุบันมีวิธีการลดน้ำหนักหรือลดสัดส่วนจากไขมันส่วนเกินได้ ดังนี้







1.การผ่าตัดลดความอ้วนโดยวิธีการต่างๆ เช่น การดูดไขมันโดยตรง การใส่ห่วงกระเพาะอาหาร (gastric band) หรือการทำทางอ้วนให้อาหารถูกย่อยผ่านกระเพาะได้น้อยลง <Gastric Bypass> หรือในปัจจุบันใช้วิธีการเจาะผ่านผิวหนังชั้นตื้นๆลงไปเพื่อสอดเครื่องมือที่จะปล่อยคลื่นเสียงหรือขึ้นวิทยุเพื่อสลายไขมัน



2.การใช้ยา ปัจจุบัน มียาที่ผ่าน อย.อเมริกาให้ใช้เพื่อการลดน้ำหนักได้โดยตรงได้แก่ยาตระกูล sibutramine แต่ต้องได้รับการควบคุมดูแลจากแพทย์เท่านั้น **  (ปัจจุบัน Sibutramine หรือ Reductil ถูกถอดออกจากยาที่ผ่าน อ.ย. แล้วนะครับ เพราะสัมพันธ์กับโรคหัวใจ) หรือแม้แต่ยาสารสกัดจากสมุนไพรต่างๆเช่น  Chitosan  ซึ่งสกัดจากพวกเปลือกสัตว์ทะเล ที่มีผลการทดลอง (In vitro) รองรับว่าสามารถลดการดูดซึมไขมันในอาหารในระดับหนึ่ง ,บุก ก็พบว่านอกจากช่วยควบคุมปริมาณน้ำตาลผ่านอินซูลิน ยังทำให้อิ่มเร็วขึ้น








3.การใช้เครื่องมือทางการแพทย์ เช่น


 Carboxytheraphy ที่ใช้ในการลดเซลลูไลท์ ปัจจุบันพบว่าไม่ค่อยจะได้ผลนะครับ เพราะในส่วนตัวผมไม่พบใครลดเลย 55
 ส่วนเครื่อง Radio frequency ทั้ง Monopolar , Bipolar และ Tripolar ที่ใช้ลดสัดส่วน



สลายไขมัน นั้นเเนะนำเครื่องมาตรฐานสูงๆอย่าง thermage , Tripolar มากกว่า ยี่ห้ออื่นก็ดูไปครับ ผมชอบใช้เครื่องมาตรฐานสูง ปลอดภัยเเละได้ผลดีกว่าการใช้ยาฉีดเข้าสลายไขมัน <mesotheraphy> ปัจจุบันไม่ผ่านอย อย นะครับ เพราะเขาจดทะเบียนในรูปยาทา เเต่กลับเอามาฉีดกันเฉยเลย อันตรายครับ








เครื่องตระกูลเจาะปล่อยคลื่นละลายไขมัน เช่น Vaser-Lipo-selective ที่ใช้การเจาะแล้วใช้คลื่นเสียงละลายไขมัน ได้ผลดี "ถ้าทำโดยศัลยเเพทย์ตกเเต่งเท่านั้นครับผม" ไม่งั้นเป็นเเบบรูปข้างบนเเน่นอนครับ



Ultra-Sono การใช้คลื่นระดับอัลตร้าซาวน์ช่วยละลายไขมัน แต่จะรู้สึกแสบหูเวลาทำนะครับ
เเต่เครื่องที่ปัจจุบันผมชอบมากเพราะทำได้ผลดีมากๆคือ VELASMOOTH2 ครับ ทำปุ๊ปมันยุบสวยดีครับ รู้สึกว่า vela2 จะเป็นเครื่องเดียวที่ผ่าย อย อเมริกาในการรักษาลดไขมัน รอยเเตกลายได้จริงครับ ถ้ามองหาเครื่องมือเเพทย์ผมเเนะนำตัวนี้มากที่สุดครับ




4. วิธีอื่นๆ เช่น การฝังเข็ม ปัจจุบัน แพทย์แผนตะวันออกดูเหมือนจะมีบทบาทเข้ามาช่วยในเรื่องนี้มากมาย และมีการรับรองจากวารสารหรือบทความทางการแพทย์ถึงการใช้การฝังเข็มลดความอ้วนว่าได้ผลระดับหนึ่งเลยทีเดียวครับ




ทั้งสี่วิธีสามารถนำมาใช้ช่วยลด ความอ้วน ได้เป็นอย่างดี







อ่านเพิ่มเติมได้ที่
https://www.route035.com/webboard/index.php?topic=194.0
หัวข้อ: ลดไขมัน รอยเเตกลาย ลดสัดส่วน ด้วยวิธีไหนดี เลเซอร์หรือเวเซอร์ ดี vaser laser อยากรู้ที่นี่มีคำตอบ

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

Go to full version